วินาทีที่เรากำลังคิดว่าซีรี่ย์ Uncharted กำลังจะมาถึงจุดจบ ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหลัง Uncharted 4: A Thief’s End ทาง Naughty Dogs คงหันไปนั่งทำ The Last of Us 2 ต่อนั้น จู่ๆ เมื่อ วันที่ 3 ธันวาคม 2017 Naughty Dogs ก็ได้ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ด้วยการประกาศเปิดตัว Uncharted: The Lost Legacy ซึ่งเป็น Standalone Expansion ของ A Thief’s Ends ออกมา
หากแต่ในครั้งนี้ทาง Naughty Dog เลือกที่จะไม่หยิบ Nathan Drake มาใช้อีกเพราะรู้สึกว่าเรื่องราวของเขาได้จบลงไปแล้ว แต่กลับใช้ตัวละครที่ไม่ได้ปรากฏมาตั้งแต่ Uncharted 2: Among Thieves แทนนั่นคือ ‘Chloe Frazer’ และนำตัวร้ายรองจากภาค 4 มาใช้เป็นตัวละครหลักของเรื่องกับ ‘Nadine Ross’ ก่อเกิดเป็นไดนามิคที่น่าสนใจ แม้หลายคนจะตั้งคำถามใส่ก็ตาม
‘Nathan Drake ไม่ใช่ทุกสิ่งของ Uncharted’
คือโจทย์สำคัญที่ The Lost Legacy ต้องหาทางกระโดดข้ามไปให้ได้ และ Naughty Dog จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าทำไม Uncharted ถึงเป็นแฟรนไชส์ว่าด้วยการหาสมบัติลึกลับ ไม่ใช่ชีวิตของ Nathan Drake ถึงแม้เนื้อเรื่องเกมทั้ง 4 ภาคจะดูไปในทิศทางนั้นก็ตาม
และในที่สุด Naughty Dog ก็สามารถทำได้สำเร็จอีกครั้งแบบไม่ยากเย็น แม้จะใช้เวลาในการพัฒนารวมๆ แล้วเกือบๆ สองปี แต่ก็ยังสามารถส่งมอบ 9 บทผจญภัยระหว่าง Frazer และ Ross ได้อย่างน่าจดจำ ตั้งแต่บรรยากาศเมืองที่อยู่ภายใต้สงครามอย่างหนัก จนถึงป่าชุ่มชื้นกลางอินเดียที่เต็มไปด้วยน้ำตกและปริศนามากมาย The Lost Legacy ยังคงเป็นเกมที่งดงาม กดถ่ายภาพในเกมกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ
พัฒนาการตัวละครยังถือว่าทำออกมาได้ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับ Uncharted ภาคหลักที่เหมือนเอาคนบ้ามาสู้กับคนโลภ, Ross ที่เคยเป็นตัวร้ายมาก่อนใน A Thief’s End และชอบทำกิริยาที่ทำให้เราอยากยิงทิ้ง แต่เมื่อเธอมาอยู่ใน Lost Legacy กลับน่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ และแสดงให้เราทุกคนได้เห็นว่าอย่าได้ตัดสินหนังสือจากหน้าปก ด้าน Frazer ก็มีอารมณ์ขันได้อยู่ตลอดด้วยทักษะการพูดป่วนชั้นเลิศที่เห็นแล้วก็ไม่รู้ว่าไปฝึกวิชาเดียวมาจาก Nathan Drake หรือเปล่า ใครที่ชอบปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละครแล้วล่ะก็ The Lost Legacy มีอะไรแบบนี้เยอะไม่แพ้เกมหลักเลยแหละ
ฝั่งตัวร้ายก็มีความชัดเจนด้านแรงจูงใจยิ่งขึ้น เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับไอ้งั่งอยากรวยที่ไหนไม่รู้ แต่เราต้องต่อสู้กับ Azaz หัวหน้ากองกำลังต่อต้านที่อยากได้สมบัติไปขายเป็นเงินมาหนุนกองทัพของตัวเอง แต่ดันต้องมาเจอกับคู่หูอยากรวย กลายเป็นจุดประกายระหว่างชั่วปะทะชั่ว ซึ่งถือเป็นประกายที่น่าสนใจ แม้สุดท้ายแล้วเกมจะเริ่มโน้มน้าวว่าคนไหนดีคนไหนไม่ดีในท้ายที่สุดก็ตาม
และน่าดีใจที่ The Lost Legacy มีเนื้อเรื่องเพียง 9 บท หลายคนอาจจะคิดว่าสั้นไป แต่ความจริงแล้วมันยาวพอๆ กับเกมภาคหลักเลยนะ เพราะแต่ละบทไม่ได้เล่นแค่ 10-20 นาทีจบแบบภาคหลัก แต่สามารถยาวได้ถึงเกือบ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียวถ้าใครเป็นขาสำรวจ ส่วนระยะเวลาการเล่นรวมๆ ก็อยู่ที่ 7-8 ชั่วโมง ซึ่งก็พอๆ กับ Uncharted 3 ดังนั้นใครคิดว่ากลัวซื้อมาแล้วไม่คุ้มเพราะเนื้อเรื่องดูสั้นๆ กลัวยาวแค่ 3 ชั่วโมงแบบ The Last of Us: Left Behind ไม่ต้องกลัวไปครับ เกมยาวเกือบพอๆ กับเกมหลักนั่นแหละ
ส่วนที่มีการปรับปรุงมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อจนต้องยกนิ้วให้เลยก็คือ การดำเนินเรื่องที่เรียบเรียงได้รวดเร็ว ไม่ลากยาว เดินตรงประเด็นมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเมื่อเทียบกับภาคหลัก อย่างภาคแรกนี่จะสังเกตุได้ชัดเจนเลยว่าตัวเกมค่อนข้างยืดเอาเรื่อง เพื่อให้พล็อตยาวพอที่จะยัด 20 กว่าบทเข้าไปในเกม แต่พอตัดเหลือ 9 บทแล้วไม่มีการลากอะไรที่ไม่ควรลาก Lost Legacy จึงเป็นเกมที่กระชับ รู้ตัวดีตลอดว่ากำลังจะเดินไปในทางไหน มีเซอร์ไพร์ส มีดราม่า มีแอ็คชั่น ครบรสชาติที่ Uncharted ควรมี แทบไร้ที่ติใดๆจริงๆ ครับ
บวกกับบรรยากาศในเกมที่ สวยงาม กราฟิกตระการตา แอ็คชั่นแบบระเบิดภูเขาเผากระท่อม ตัวละครตลกมีสเน่ห์น่าจดจำด้วยแล้ว จึงทำให้ Uncharted The Lost Legacy ยังคงเป็นเกม Uncharted อยู่เต็มเปี่ยม ซึ่งนอกจากจะครบเครื่องเรื่องเกมยิงคุณภาพดีๆ แล้วยังพิสูจน์ให้เห็นด้วยว่า สามารถยืนได้ด้วยลำแข้งตัวเองโดยไม่ต้องพึ่ง Nathan Drake มาแสดงนำ และ Frazer คือตัวแทน Nathan Drake คนใหม่ที่ดีเยี่ยม และถ้าคุณภาพการเขียนบทยังดีแบบนี้อีก ไม่ต้องมี Nathan Drake ‘Uncharted’ ก็เฉิดฉายเจิดจรัสได้ไปอีกนานแน่นอนครับ >>ดาวน์โหลดเกมคลิก<<
สรุป
ซื้อเถอะ 1,190 เองตัว งานคุณภาพหมาซนแบบนี้ อย่าได้รออะไรอยู่อีกสาวก PS4 กดไปอย่าได้เสีย อิอิ
รีวิวเกม By GameWorld
“The game world is our world.”