by GM News
หยุดหายไปนานกว่าสองปี ในที่สุด Need For Speed ก็ขอกลับมาทวงคืนบัลลังค์จ้าวแห่งเกมรถแข่งกันอีกครั้ง หลังการรีบู้ตที่น่าผิดหวังเมื่อปี 2015 ทีมพัฒนาเลยหันกลับมานำเสนอเกมแข่งรถที่เน้นความมันส์ในการเหยียบคันเร่งและความดุเดือดในฉากไล่ล่าทั้งหลายให้เราได้รับชมกัน ไม่ว่าตัวเกมจะดีเยี่ยมเหมือนภาค Most Wanted หรือไม่ นั่นคือการตัดสินใจของผู้เล่นเอง แต่ถ้ากำลังจะพิจารณาซื้อตัวเกมมาเล่น วันนี้เรามีข้อมูลรวมๆ ของ Need For Speed Payback มาฝากกันครับ
โลกที่เปิดกว้าง
แทบทุกเกมรถแข่งในยุคนี้มักจะมีจุดเด่นที่โลกกว้างใหญ่เปรียบเสมือนสนามแข่งยักษ์รอให้เราเข้าไปซิ่งสนุกสนาน เช่นเดียวกับภาค Payback ที่ประกาศว่าจะเป็นภาคที่มีโลกในเกมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา พบกับ 4 เขตภายในเกมรอให้เราไปสัมผัส เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมกราฟิคที่สวยงามสมกับที่พัฒนามาจาก Frostbite 3 พร้อมกิจกรรมแยกระหว่างกลางวันและกลางคืนรอท้าทายผู้เล่นมากมายและสถานที่มากกว่า 400 จุด จากตึกสูงสู่ทะเลทราย ทุกแห่งมีอะไรให้ทำเสมอ
ชีวิตคืออันตราย
เพราะสโคปของเกมที่จะเจาะลึกไปยังโลกด้านมืดของกิจกรรมแข่งรถเถื่อน ดังนั้นก็ต้องมีตำรวจมาเกี่ยวข้อง ต่างจากภาค 2015 ในภาคนี้เราจะได้ซิ่งหนีตำรวจกันอีกครั้ง เมื่อผสมผสานกับโลกกว้างและเวลากลางวันกลางคืนแล้ว ความรู้สึก ‘ซิ่งข้ามวัน’ อาจจะไม่ได้ไกลจากเราๆ ท่านๆ กันก็เป็นได้ ตัวเกมจะเน้นให้ผู้เล่นขับ เร็ว แรง ท้าอันตราย ใครชอบดริฟท์ เหินเวลา ซิ่งท้าความตาย ภาคนี้ดูจะมีอะไรให้กับเราแน่นอน ยิ่งใครชอบหนังรถ อาทิ Fast and Furious รับประกันความบันเทิงในภาคใหม่นี้ได้เลย
3 ตัวละคร หนึ่งเรื่องราว
เราจะไม่ได้ซิ่งคนเดียวไปทั่วเมืองแบบภาคเก่าๆ อีกต่อไป ในภาคนี้เราจะได้ซิ่งไปกับอีกสามตัวละคร Tyler Morgan, Mac และ Jeese แต่ละคนก็จะมีแนวทางการเล่นและการซิ่งที่แตกต่างกันไป ทั้งสามคนจะมีเรื่องราวกึ่งกลางฉบับเดียวกัน นั่นคือการล้ม The House แก๊งค้ายารอบๆ เขต Fortune Valley ในภาคนี้ เนื้อเรื่องและการเล่าเรื่องจะกลับมาเป็นจุดขายที่สำคัญอีกครั้ง และหวังว่าเนื้อหาจะออกมาสนุกสนานอย่างที่หวังแหละนะ
เลือกไก่ให้ดูที่ขน เลือกรถมาแต่งให้ดูที่คลาส
อีกหนึ่งจุดขายในตระกูล Need For Speed ที่อยู่คู่ตระกูลมานานไม่พ้นระบบรถแต่งรถ ใน Payback ผู้เล่นจะสามารถเลือกรถจากหลากหลายระดับคลาส แล้วแต่งรถได้ทุกส่วนของรถตามใจเราไล่ตั้งแต่ กระโปรงหน้า เสียงแตรบีบ ยันสีล้อ พร้อมตัวเลือกท่ากมายและอุปกรณ์ปรับแต่งที่มีให้เลือกเยอะแยะไปหมด รับประกันว่าแต่งได้ทุกคันทุกส่วนแน่นอน
ปรับปรุงทั้งคนเดียวและหลายคน
หนึ่งในปัญหาที่แฟนๆ ร้องเรียนจากภาค 2015 มากที่สุดนั้นคงไม่พ้นเรื่องโหมดเล่นคนเดียวที่บังคับออนไลน์ตลอดเวลา และโหมดผู้เล่นหลายคนที่ขาดอะไรหลายๆ อย่างมากเกินไป ใน Payback เลยมีการปรับปรุงในหลายๆ ส่วน อาทิ โหมดผู้เล่นคนเดียวที่ไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกต่อไป รวมไปถึงโหมดผู้เล่นหลายคนทั้ง ระบบ Loadout เตรียมรถที่เราจะไปแข่งไว้เป็นชุดๆ กับระบบ Matchmaking ที่จะจับคู่ระหว่างเรากับคู่แข่งโดยวัดจากยศที่เรามีในเกมและระดับของรถที่เราครอบครอง ดังนั้นมั่นใจได้ว่าเกมจะเท่าเทียมกันอย่างแน่นอน ตัวเกมยังมีโหมดให้เลือกระหว่างแข่งกันขำๆ Casual หรือแข่งจริงจังกับผู้เล่นคนอื่นในโหมด Ranked ด้วย
ความพิเศษสำหรับ PS4 PRO และ XBOX ONE X
ใครที่มีคอนโซลระดับสูงขึ้นมาหน่อยในชื่อของ PS4 PRO และ XBOX ONE X เตรียมพบกับความละเอียดกราฟิคระดับ 4K คมชัดแบบสุดๆ โดยเฉพาะแบบ XBOX ONE X ที่ด้วยขุมพลังแรงกว่า ทำให้สามารถแสดงผลภาพ 4K ได้อย่างเต็มที่พร้อมความเร็ว 30FPS ส่วน PS4 PRO จะโดนลดความละเอียดลงมาเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นระดับ 4K วิ่งที่ 30FPS อยู่ ก็ถือว่าไม่เลวร้ายและดีกว่าไม่มีอะไรเลยล่ะนะ ตัวเกมวางจำหน่ายแล้วทั้งบน PC, PS4 และ XBOX ONE
