Six Days in Fallujah เกมยิงที่ไม่เคยวางจำหน่าย กับเสียงวิจารณ์แบบสับเละ

Six Days in Fallujah เกมยิงที่ไม่เคยวางจำหน่าย กับเสียงวิจารณ์แบบสับเละ

author image by GM News | News Special Post | 0 Comments | 05 ธ.ค. 2017 | เปิดดู

หลังการวางจำหน่ายของเกมยิงทหารที่เรียกได้ว่า ‘ปฏิวัติ’ วงการเกมยิงอย่าง ‘Call of Duty 4 :Modern Warfare’ ตลาดเกมในช่วงนั้นจึงเต็มไปด้วยเกมยิงแนวทหารมากมายแทบจะล้นตลาด โลกที่เปิดกว้างและอาวุธหลุดโลกจากยุค 90s จึงหายไป และนำมาซึ่งประสบการณ์กึ่งหนัง กับเกมยิงธีมทหารและสงครามที่ขายบรรยากาศแบบสมจริงและเนื้อเรื่องเข้มข้นเป็นที่ตั้งแทน ตัวละครมากมายน่าจดจำปรากฏตัวขึ้นเพื่อเชื่อมเนื้อหาของเกมผ่านสายตาของผู้เล่น และนำมาซึ่งสถานะล้นตลาดดังที่เป็นในตอนนี้

https://www.youtube.com/watch?v=Q0oOGjEATjw&t=38s

แต่ในขณะที่เกมเนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะนำเหตุการณ์จริงมาดัดแปลงเป็นของตัวเอง Six Days in Fallujah คือเกมยิงธีมทหารยุทธวิธีมุมมองบุคคลที่สาม ที่ทีมพัฒนาเกมตัดสินใจนำเหตุการณ์สงครามในอิรัก Fallujah เมื่อปี 2004 อันเป็นเหตุการณ์จริงมาใส่เข้าไปในเกม โดยในเหตุการณ์จริงนั้นมีทหารจากประเทศสหรัฐ, อังกฤษ และกองกำลังอิรักเข้าจู่โจมผู้ก่อการร้าย มีผู้คนล้มตายมากกว่า 100 คนจากทั้งสองฝั่ง และบาดเจ็บจากการสู้รบอีกมากกว่า 1,000 คน

สื่อเมนสตรีมหลักมากมายรวมไปถึงกลุ่มต่อต้านสงครามและอีกมากมาย โจมตีตัวเกม Six Days in Fallujah ว่าเป็นเกมที่ก้าวล้ำเส้นระหว่างเรื่องแต่งกับความจริงมากเกินไป ไม่ให้ความเคารพผู้ที่สูญเสียไปในเหตุการณ์ต่อสู้เพื่อเมือง Fallujah และเรียกร้องให้ยกเลิกการวางจำหน่ายเกม และมันก็ไม่ได้วางจำหน่ายจนถึงทุกวันนี้…

จุดเริ่มต้นกับ Atomic Games

Atomic Games คือค่ายเกมที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1989 และโด่งดังมาจากเกมวางแผน Real Time Tactic ที่กวาดรางวัลเกมแห่งปีไปมากมายในชื่อ ‘Close Combat’ และถูกสื่อมากมายยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เมื่อปี 2003 กลุ่มทหารสหรัฐกลุ่มหนึ่ง ได้เดินทางไปหา Atomic Games และขอร้องให้ทาง Atomic Games ทำเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง จำลองการรบแบบสมจริง เพื่อให้ทหารกองทัพสหรัฐไว้ฝึกฝนเพื่อใช้เล่น ทาง Atomic Games ก็ตอบตกลง และได้เริ่มพัฒนาเกมยิงจำลองการต่อสู้ตัวใหม่เพื่อกองทัพสหรัฐโดยเฉพาะ ซึ่งก็มีทหารจากกองทัพสหรัฐ ไปเยี่ยมดูความคืบหน้าของทีมพัฒนาเกมอยู่บ่อยๆ ตลอดปี

มีหลายคนเหมือนกันที่เพิ่งรอดมาจากสงครามความขัดแย้งในอิรัก และได้เดินทางมาให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเกมที่ว่า และเสนอให้ทำระบบสุ่มการโจมตีภายในเกม เพื่อเสริมความพร้อมให้กับทหารทุกคน และแม้จะไม่ได้อยู่คุยกันและกันนานนัก แต่ก็ถือว่ามีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันพอสมควรระหว่างทีมพัฒนากับทหารกลุ่มนี้

จากนั้นทหารที่เคยมาให้คำแนะนำเหล่านี้ ก็ถูกส่งกลับไปยังอิรักเพื่อรบกับศัตรูในสงครามเพื่อเมือง Fallujah เคราะห์ดีที่ทุกคนสามารถรอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย แม้จะมีบาดเจ็บกันอยู่บ้าง และก็มีการคุยกับทีมพัฒนาเกมในเรื่องที่ว่าบางครั้งพวกเขาจะฉีดอะดรีนาลีนเข้าไปในร่างกายด้วย เพื่อจะได้ตื่นตัวตลอดเวลา เพราะถ้ามัวเชื่องช้าในสถานการณ์แบบนี้ อาจได้ตายแล้วไม่ฟื้นเป็นแน่

ทั้งหมดคือข้อมูลล้ำค่าที่ทีมพัฒนาเกมมิอาจประเมินค่าได้ และนั่นได้นำมาซึ่งเกมยิง Squad-Based ที่ลูกทีมก็มีส่วนสำคัญในชัยชนะนาม Close Combat: First To Fight และตอนนั้นเอง ที่ทีมพัฒนาตัดสินใจนำประสบการณ์ของทหารที่เคยมาพูดคุยกับพวกเขา ดัดแปลงเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่สาม ที่ถ่ายทอดมาจากเหตุการณ์จริงในชื่อ ‘Six Days in Fallujah’

สู่ไอเดียที่ดูรุ่งโรจน์

เบื้องต้นทีมพัฒนา Atomic Games ตั้งใจว่าจะทำให้ตัวเกมนั้นผสมระหว่างความสนุกสนาน และการได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการรบจริงๆ จากเหตุการณ์ที่นำมาเป็นธีมของเกมอันเป็นเหตุการณ์จริง ซึ่งในเวลานั้นอดีตทหารหลายคนก็มองว่า Video Games คือสื่อแบบเดียวจริงๆ ที่จะมอบประสบการณ์ในสนามรบได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ทีมพัฒนา Atomic Games จึงได้ใช้ภาพจากดาวเทียม ถ่ายทอดลงมายังเมือง Fallujah แล้วปั้นแผนที่ภายในเกมจากภาพดาวเทียมนั้นๆ ถึงแม้หน้าตาตึกต่างๆ อาจจะไม่เหมือนกับในเมือง Fallujah แบบเป๊ะๆ แต่เส้นทางถนนต่างๆ นั้นรับประกันได้ว่าถอดมาจากของจริงแน่นอน

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาเอนจิ้นใหม่สำหรับตัวเกมโดยเฉพาะอีกด้วย เพราะทางทีมพํฒนามองว่า เอนจิ้นที่มีในตลาดนั้นไม่สามารถตอบโจทย์ของพวกเขาได้ โดยจุดเด่นก็คือผู้เล่นสามารถทำลายข้าวของ กำแพง ทุกอย่างภายในเกมได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสูญเสียเฟรมเรตไป

ทุกคนที่รอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ในเมือง Fallujah จะถูกชวนให้มาทดสอบบางภารกิจในเกม และให้คำแนะนำรวมไปถึงเรื่องราวของจริงว่าออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งมักจะพูดย้ำๆ ว่ามันไม่เหมือนอะไรที่ฮอลลีวู้ตผลิตออกมาสร้างความสนุกให้กับคนดูเลยแม้แต่นิดเดียว

โดยทีมพัฒนาเกมเองก็ไม่สามารถนำเสนอความสมจริงแบบติดดินจัดๆ ได้นัก ทั้งนี้ก็เพื่อมั่นใจว่าตัวเกมจะยังขายได้ เป็นที่มาของระบบฮีลเลือดอัติโนมัติที่เกมยิงสมัยนั้นดูจะฮิตและชอบใช้กัน จากนั้นก็มีการเปิดตัวเกมอย่างเป็นทางการใน เดือน เมษายน 2009 และเสียงตอบรับก็เป็นไปในด้านบวกซะส่วนใหญ่ ซึ่งทาง Konami ในเวลานั้นหลังจากเห็นตัวเกมแล้วถึงกับสนใจ จึงขอมาเป็นผู้จัดจำหน่ายร่วมกันกับทีมพัฒนาเกมอีกด้วย ทุกอย่างดูไปได้สวยมาก แต่อะไรจะทำให้เรื่องกลับตารปัตรนับจากนี้…

พิษภัยของความ ‘สมจริง’

จู่ๆ สื่อหลักมากมายในตลาดเมนสตรีม ก็ได้ออกมาต่อต้านและถล่มทุกคนที่มีส่วนในเกม Six Days in Fallujah อย่างบ้าคลั่ง กลุ่มต่อต้านความรุนแรงออกมาประท้วงขอให้ยกเลิกการพัฒนาเกมนี้ซะ ด้านสื่อหลายคนก็รุ้มทึ้ง มีการเชิญผู้สูญเสียลูกชายหรือสามีมากมายมาสัมภาษณ์ขอความเห็นถึงตัวเกมที่ว่านี้ว่าเหมาะสมหรือไม่

โดยในความเห็นของพวกเขานั้น กลัวว่าการนำเหตุการณ์อะไรแบบนี้ไปทำในวิดีโอเกม จะทำให้ทุกคนที่สูญเสียไปในเหตุการณ์ ดูไร้ความสำคัญเพราะตัวเกมมัวแต่โฟกัสกล้องไปที่คนๆ เดียวที่เป็นตัวเอกของเกม แถมพอบางอย่างผิดพลาด ผู้เล่นก็เพียงแค่กดปุ่มรีสตาร์ท โหลดเซฟ เล่นใหม่ได้ กลับกัน ผู้คนที่มีส่วนรวมในเหตุการณ์ที่ว่า เขาไม่ได้มีปุ่มโหลดเซฟนี่ เขาตายแล้วตายไปเลย

ทั้งนี้อีกเหตุผลหนึ่งที่ Atomic Games โดนสับ คงจะเป็นที่การประกาศเปิดตัวของเกม ที่ทำออกมาเร็วเกินไป เนื่องจากสงครามยังไม่จบ และมีอีกหลายคนที่ยังคงเจ็บปวดจากการสูญเสียคนที่พวกเขารัก มีทหารที่เข้ามามีส่วนร่วมหลายคนในการพัฒนาเกมได้ออกมาปกป้อง แต่เพราะการออกมาปกป้องกันต่อหน้าทีวีสดๆ ยิ่งทำให้อีกหลายๆ คนต่อต้านเข้าไปใหญ่

ด้าน Konami ที่เพิ่งจะเข้ามามีส่วนร่วมได้เพียง 3 อาทิตย์ เล็งเห็นถึงเสียงวิจารณ์ ก็รีบกระโดดแวบออกจากเรือที่กำลังจะล่มด้วยความรวดเร็ว ตัดขาดความสัมพันธ์กับ Atomic Games อย่างสมบูรณ์ ว่ากันว่าที่ Konami ถอนตัวนั้นเพราะว่าพวกเขาโดนรุมถล่มอีเมล และผู้คนโทรศัพท์เข้ามาติ ด่า สับ กันจนไม่เป็นอันทำอะไร ซึ่งถ้า Konami ไม่เจออะไรแบบนี้ ก็คงจะลองเสี่ยงวางจำหน่ายเกมดูแน่นอน

แน่นอนว่าทีมพัฒนาเกมผิดหวังในการถอยหลังของ Konami เป็นอย่างมาก แต่ก็ยังขอสู้อีกเฮือกหนึ่ง ออกมาประกาศถามหาทีมจัดจำหน่ายเกมใหม่ที่กล้าสู้ไปกับพวกเขา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเล่นด้วย ทำให้งบพัฒนาเกมเริ่มร่อยหรอ สถานการณ์มืดมนลงเรื่อยๆ และจู่ๆ ทีมพัฒนาก็หายไปกับสายลมอย่างเงียบๆ ในปี 2010

ตื่นอีกครั้งก่อนหลับไหลนิรันตร์กาล

ทั้งนี้หลายๆ อย่างที่ Atomic Games ทำมาก็ไม่เสียเปล่า ทีมพัฒนาเกมตัดสินใจมาโฟกัสที่โหมดผู้เล่นหลายคน แล้วหันมาพัฒนาเกมใหม่อย่าง ‘Breach’ แทน แม้ตัวเกมจะยังใช้ธีมสงครามอิรัก และใช้เอนจิ้นเดิมในการพัฒนา ตัวเกมก็มีอะไรแตกต่างจากเดิมพอสมควร อาทิมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และความที่ไม่มีเนื้อเรื่องใดๆ เลยนอกจากทหารยิงกับคนร้าย

ตัวเกมเปิดวางจำหน่ายในปลายปี 2011 และโดนสับเละโดยนักวิจารณ์ ถึงดีไซน์ที่ดูโบราณ เสียงในเกมที่ห่วยแตก และทุกอย่างภายในเกมนั้นดูแล้งๆ ไปหมด จากนนั้นตัวเกมก็ปิดเซิฟเวอร์หลังเกมวางจำหน่ายไปไม่นาน และไม่ถึงปีตัวเกมก็ถูกถอดจากหน้า Steam และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ยินชื่อของ Atomic Games อีกเลย…

ตัวเกมนั้นดูทรงแล้วคงจะไม่มีการวางจำหน่ายของเกมเกิดขึ้นอีก และถึงจะวางจำหน่ายตอนนี้ ด้วยตลาดเกมเมอร์ที่ดูจะไม่สนใจในเกมยิงธีมทหารยุคปัจจุบันมากเท่าแต่ก่อนก็คงยากที่จะทำเงินได้ แต่ก็ต้องยอมรับในความกล้าลงทุนของทีมพัฒนาเกมล่ะนะ

Tags: , , , , , ,

Advertisement




Advertisement




LIKE US