นับตั้งแต่วันที่ Josef Fares ตะโกนด่า ‘F*ck Oscar’ กลางงาน The Game Award 2017 และเปิดตัวเกมแอ็คชั่นช่วยกันเล่นอย่าง A Way Out ผู้เขียนก็รอคอยที่จะได้สัมผัสตัวเกมมาตลอด ด้วยไอเดียมากมายที่น่าสนใจสุดๆ ตั้งแต่การบังคับให้เล่นกับเพื่อน, ระบบตัวเลือกเส้นทางหลากหลาย ผู้เขียนเลยหมายตาไว้ตลอดว่ามีเงินเมื่อไหร่ต้องจัดมาเล่นกับเพื่อนให้ได้
และหลังจากได้มาครองสมใจพร้อมสัมผัสไปแล้วราวๆ 6 ชั่วโมง ในภาพรวมต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง A Way Out เป็นเกมแนวแอ็คชั่นผจญภัย ที่มีจุดขายหลักเลยคือการบังคับให้ผู้เล่นต้องเล่นกับเพื่อนเท่านั้น ผู้เล่นสามารถเชิญเพื่อนมาเล่นได้ แต่เพื่อนของเราจะไม่สามารถเข้าเกมได้เว้ยเสียแต่ว่าเราเชิญเข้าไปเล่น หลังจากเชิญและรอเพื่อนดาวน์โหลดเสร็จก็ไปสนุกกันได้เลย
เนื้อหากล่าวถึง Vincent และ Leo สองนักโทษที่ถูกจับมาอยู่ในเรือนจำเดียวกัน และตัดสินใจทำงานร่วมกันเพื่อหลบหนีออกไปจากคุก และออกตามล่าเจ้าพ่อมาเฟียผู้พังทลายชีวิตของทั้งสอง ในเกมแอ็คชั่นผสมความเป็นเกมผจญภัยอารมณ์เหมือนเล่นเกมของ Telltales ได้มาเป็นประสบการณ์ยากนักที่จะลืม
ในขณะที่เนื้อหาของเกมนั้นยังถือว่าไม่ค่อยดีนัก ค่อนข้างจะโบราณและไม่ได้ทำอะไรใหม่ๆ เป็นเรื่องราวแหกคุกธรรมดา บู๊แหลกเหมือนหนังเกรดบี ระเบิดตู้มต้ามแอ็คชั่นระห่ำ เนื้อหาแบบนี้ถ้าเอาไปทำหนังคงจะโดนนักวิจารณ์สับไม่มีชิ้นดี แต่พอเอามาใส่เป็นเกม ที่ๆ ผู้เล่นสองคนต้องช่วยกันเล่นและฝ่าฟันอุปสรรค พร้อมเพิ่มเส้นทางที่หลากหลายในการดำเนินเรื่อง กลับกลายเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่สนุกสนานอย่างไม่น่าเชื่อ และคนที่มีเพื่อนบ้าเกมต้องสัมผัสกันสักครั้ง
เสียงพากษ์และกราฟิคถือว่าอยู่ในระดับพอรับได้ ไม่ใช่เกมจาก Frostbite หรือเสียงพากษ์จากดาราระดับฮอลลีวู้ด แต่ดีพอไม่ทำให้เรารู้สึกขี้เหร่ อนิเมชั่นก็จัดว่าสอบผ่านสำหรับเกมระดับ AA ที่คั่นกลางระหว่างความเป็นเกมอินดี้และเกมฟอร์มยักษ์ ระบบเกมเพลย์สำหรับเกมแนวขับเคลื่อนด้วยเนื้อหาและเน้นฉากคัตซีนแล้ว นับว่าทำได้ก้าวข้ามเกมแนวเดียวกันไปไกลโขโยชน์นึงกันเลยแหละ
ส่วนที่น่าประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นในแง่ของการเก็บรายละเอียด ผู้เล่นสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของรอบตัวได้ทั้งกับ NPC หรือกับผู้เล่นด้วยกันเอง อย่างเวลาอยู่ในพื้นที่ฉากออกกำลังกายในคุก ผู้เล่นก็สามารถแข่งวิ่งกับนักโทษแถวนั้นได้ หรืออีกกรณีนึงเจอคนเล่นไม้เบสบอลในหมู่บ้าน เราสามารถหยิบไม้เบสบอล แล้วให้เพื่อนเป็นคนโยนลูกบอล เล่นเบสบอลกันได้ด้วย การเก็บรายละเอียดสิ่งที่ผู้เล่นมีปฏิสัมพันธ์ไปกับโลกของเกมได้ เพิ่มอารมณ์ในการเล่นได้อย่างมากเลยทีเดียว
ด้วยความที่เป็นเกมที่ดีไซน์มาเพื่อเล่นกับเพื่อน จึงมีหลายครั้งที่ผู้เล่นต้องทำงานร่วมกัน อย่างช่วงหนึ่งที่ผู้เล่นต้องหาทางเข้าไปยังด้านหลังคุกซึ่งจะมีพื้นที่ให้เดินนำออกไปยังพื้นที่ภายนอกอยู่ ผู้เล่นคนนึงจะต้องเอาไขควงมาไขเหล็กที่ปิดทางเข้าออกด้านหลังส่วนอีกคนต้องหาทางถ่วงเวลายามและคอยดูต้นทาง อีกช่วงหนึ่งคือผู้เล่นถูกตำรวจไล่ตาม คนนึงจะต้องใช้ลูกซองยิงรถตำรวจ ส่วนอีกคนนึงต้องขับรถหนี คอยหลบรถและสิ่งกีดขวางตามทาง องค์ประกอบเหล่านี้หากอยู่ในเกมอื่นๆ หรือหนังคงจะไม่น่าตื่นเต้น แต่พอมาทำเป็นเกมแนวช่วยกันเล่นบังคับสองคนแล้วกลับได้ความรู้สึกระทึกแบบที่เกมไหนก็มอบให้เราไม่ได้เลยแหละ
อีกส่วนหนึ่งที่ชอบมากๆ เลยคือการออกแบบฉาก ความไหลลื่นของคัตซีนและมุมกล้องที่ทำดีมาก มีฉากนึงในเกมเป็นฉากโรงพยาบาลที่ผู้เล่นต้องแยกทางกันหนีจากเงื้อมมือตำรวจ เริ่มมาเป็น Leo วิ่งหนีตำรวจ สักพักกล้องก็ไหลมาหา Vincent ที่พยายามหาทางลงไปด้านล่าง ไหลมาเป็นฉาก Leo ต่อยกับตำรวจในมุมกล้องด้านข้าง ทุกอย่างเหมือนเรากำลังดูหนังลองเทคแอ็คชั่นระทึกเรื่องหนึ่ง เป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำมากๆ
สรุป
และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ A Way Out การขายโมเมนต์ ช่วงเวลาที่ยากจะลืม ตั้งแต่ฉากแรกที่ตัวเราสองคนต้องช่วยกันสู้ จนถึงตอนท้ายเกมสุดกดดัน A Way Out ทำให้ทุกโมเมนต์ที่เราเล่นเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ไม่ใช่การจดจำที่เนื้อหา กราฟิค หรือเกมเพลย์ แต่เป็นความรู้สึกที่ได้เล่นกับเพื่อน ความรู้สึกที่ได้ทำงานร่วมกัน ฝ่าฟันไปด้วยกัน ผ่านการออกแบบฉากซีนเท่ๆ ประหนึ่งดูหนัง นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่นี่คือประสบการณ์ ที่เมื่อไหร่ที่คุณมีโอกาสก็ควรจะได้ลิ้มลองสักครั้ง ตัวเกมวางจำหน่ายแล้วบน PC, PS4 และ XBOX ONE