สำหรับใครที่รู้สึกว่าเกมแอบยากเกินไปแม้จะเล่นในระดับ Normal ก็ตาม ดูเหมือนว่านี่จะเป็นข่าวดีสำหรับใครหลายคนใน Outlast 2 เพราะล่าสุดทาง Red Barrel ได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับอัพเดตใหม่ ที่จะมีการปรับสมดุลของเกมสำหรับความยากระดับปานกลางให้แล้ว!
โดยทีมพัฒนาเกมจะทำการปรับระดับความยากสำหรับระดับ Normal หรือปานกลาง ให้เป็นมิตรกับผู้เล่นมากขึ้นสมกับเป็นระดับปานกลางจริงๆ ในขณะที่ยังคงความยากสำหรับระดับ Hell และ Nightmare เอาไว้ให้ยากดังเดิม นอกจากนี้ยังได้แก้ไขบัคมากมายของเกมให้ด้วย อาทิเช่น
- ไมโครโฟนไม่ต้องใช้แบตเตอรี่เสริมอีกต่อไป
- ขนาดตัวอักษรของซับไตเติ้ลบรรยายจะตัวใหญ่ขึ้น
- แก้ไขปัญหาการ์ดจอ Intel HD4000 มองไม่เห็นไฟในเกม
- แก้ไขปัญหาที่บางครั้งเราจะเห็นช่องสีดำๆ แวบๆ ในเกมกลางหน้าจอ
- แก้ไขปัญหาของเกมที่มีเกี่ยวกับโปรแกรมตั้งค่าปุ่มจอย และโปรแกรมบันทึกภาพ
- แก้ไขปัญหาประตูแบบสองด้านที่หนึ่งในสองด้านล็อคเอาไว้ไม่สามารถเปิดได้
- แก้ไขปัญหาเซฟหายเพราะตัวเกมตรวจสอบการเข้าเกมผ่านสตีมผิดพลาด
- แก้ไขเสียงสำหรับพวก Heretics ในเกม
- แก้ไขปัญหาจุกจิกด้านเกมเพลย์บางส่วน
- แก้ไขปัญหาเกม Crash นานๆ ทีหลายครั้ง
- เพิ่ม Commandlines “-refreshrate 60” สำหรับผู้ที่ต้องการ Refresh Rate ที่ 60
- เพิ่ม Commandlines .” -notexturelimit” สำหรับผู้ที่คอมแรงๆ โดยจะเปิดขนาดของ Texture ให้ภาพของเกมคมอยู่ตลอดเวลาไม่จำกัดตาม VRAM การ์ดจออีก
- เพิ่ม Commandlines “-borderless” สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นเกมแบบเต็มจอ Borderless
ส่วนผู้ที่อยากจะใช้ Command สามารถใช้ได้ โดยทำการคลิ๊กขวาที่ชื่อเกม Outlast 2 บน >>Steam<< เลือกตัวเลือกท้ายสุด (ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Properties) แล้วเลือก ‘Set Launch Option’ จากนั้นก็ก๊อป Commandline ลงไป เท่านี้ก็เสร็จสิ้นแล้วครับ ตอนนี้ตัวแพทซ์ก็ได้อัพเดตลงไปในเกมให้สาวกได้หลอนกันอย่างต่อเนื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย ทั้งนี้ตัวเกมมีวางจำหน่ายทั้ง PS4, XBOX ONE และ PC
ข้อมูลจาก pcgamer