by GM News
16 ปีที่ผ่านไปของ Battlefield นับตั้งแต่ภาค 1942 ภาคแรกของ Battlefield ที่ตั้งอยู่ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ในที่สุดเราทุกคนก็จะได้กลับไปยังจุดเริ่มต้นกันอีกครั้ง เมื่อ EA และ DICE ได้อออกมาประกาศเปิดตัว ‘Battlefield V’ อย่างเป็นทางการ ซึ่งมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายเลยทีเดียว ส่วนมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างนั้นมาดูกันครับ
ยินดีต้อนรับสู่ Battlefield V
เตรียมกลับไปสัมผัสประสบการณ์ในสงครามที่ๆ แฟรนไชส์ Battlefield เริ่มเมื่อ 16 ปีก่อน ใส่บู้ทสวมหมวกเหล็ก แล้วกระโดดลงไปยังสงครามโลกครั้งที่สองอีกครั้ง ในครั้งนี้ DICE พยายามที่จะนำมุมมองใหม่ๆ มาสู่เกมยิงสงครามของพวกเขา ด้วยการพยายามนำเสนอโมเมนต์ที่เกมและหนังสงครามโลกที่มีดาดดื่นตลาดส่วนมากไม่ค่อยพูดถึง ทีมพัฒนาเผยว่าพวกเขาอยากจะให้ Battlefield V เป็นประสบการณ์ Battlefield ที่ผู้เล่นจะอินไปกับเกมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว
ไปพบกับมุมมองใหม่ๆ ของชายและหญิง วีรบุรุษจากสงครามโลกที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์แบบที่ครูสอนประวัติศาสตร์ไม่เคยพูดถึงในโหมด War Stories และสนุกไปกับโหมด Co-op อันเป็นจุดเด่นใหญ่ของ Battlefield V และอีกหลากหลายฟีเจอร์โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวตัวละครที่ทีมพัฒนาทำให้มั่นใจว่าต้องลื่นไหลที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้ประสบการณ์ของผู้เล่นไม่มีอะไรมาติดขัด
เกมเพลย์ และโหมดใน BFV
ทีมพัฒนา DICE เล็งจะให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนที่ตัวละครในเกมได้รู้สึกจริงๆ มากขึ้น เริ่มที่ตั้งแต่แรงระเบิด ที่หลังจากนี้ไปต่อให้ไม่โดนระเบิดตาย แต่ถ้าอยู่ใกล้รัศมีระเบิด ตัวละครผู้เล่นจะได้รับแรงผลักกระเด็นทันที และก็มีในส่วนของระบบการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล ผู้เล่นสามารถหมอบแบบหงายได้แล้ว (นึกภาพเหมือนตอนหมอบใน Rainbow Six: Siege นั่นแหละ) ส่วนด้านระบบทำลายสิ่งก่อสร้างต่างๆ จะยังอยู่ครบเช่นเดิม แต่รับรองจะถล่มได้มากกว่าที่เคยแน่นอน
ตัวโหมดเกมนั้นแน่นอนโหมดที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอย่าง Conquest จะต้องกลับมา แต่ตัวเกมก็จะมีโหมดอื่นๆ น่าสนใจและฟิตกับธีมสงครามโลกมาให้ลองเช่นกัน นอกจากนี้ก็จะมีในส่วนของโหมด Operation จาก Battlefield 1 ที่จะกลับมาอีกครั้งในภาคนี้ด้วยชื่อใหม่ กับโหมด Grand Operation สัมผัสหลากแผนที่และหลายโหมดจากแผนที่ในเกมมาเล่าทอเป็นหนึ่งเรื่องราวสงครามใหญ่ระหว่างสองฝักฝ่ายที่เข้าห้ำหั่นต่อสู้กันเป็นวัน อ้างอิงจากหลากสนามรบและเหตุการณ์จริงเป็นหลัก โดยระยะเวลาสงครามแต่ละด่านจะยาวถึงสี่วันในเกม หนึ่งแผนที่ก็นับเป็นหนึ่งวัน เมื่อครบสามวันสามรอบแล้ว ถ้าหากยังไม่มีผู้เล่นฝั่งใดชนะ ก็จะจบกันด้วย Final Stand รอบสุดท้ายที่ๆ ทั้งสองทีมไม่เหลืออะไรให้ใช้ต่อสู้อีกต่อไป นอกจากปืนพกที่เหลือแม็กกาซีนเพียงชุดเดียวและอาวุธประชิด กลายเป็นประสบการณ์เอาตัวรอดจากสงครามอย่างแท้จริง รายละเอียดเพิ่มเติมของ Grand Operation เราจะได้เห็นกันในงาน EA Play ซึ่งจัดพร้อม E3 2018 อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าครับ
นอกจากนี้ก็จะมีโหมด Co-op ในชื่อ Combined Arms ซึ่งจะพูดถึงกลุ่มทหารที่เข้าไปยังด้านหลังทัพศัตรูและคอยช่วยเหลือทัพหน้าด้วยการทำหลากหลายภารกิจขัดขวางศัตรู ผู้เล่นจะต้องสามัคคีกับทีม และใช้ทุกอย่างที่มีต่อสู้กับข้อจำกัดหลายๆ อย่างของการอยู่ในจุดที่ไม่มีความช่วยเหลือใดๆ รอพวกเขาเลย ยังมีในส่วนของโหมดผู้เล่นคนเดียว ซึ่งจะใช้สไตล์การเล่าเรื่องแบบเดียวกับ BF1 ด้วยระบบ War Stories ซึ่งจะพาผู้เล่นไปอยู่ในมุมมองของหลากหลายทหารตามจุดทั่วโลกที่ต้องมาเผชิญกับสงครามที่ไม่ได้อยากมีส่วนร่วมแต่ต้องร่วมเพราะความจำเป็น อาทิเรื่องราวของทหารสาวคนนึงที่ทำงานให้กับกองทัพต่อต้านนาซีในนอร์เวย์ และต้องหาทางเอาตัวรอดกับอากาศหนาวเหน็บ ในขณะเดียวกันก็ต้องต่อต้านกองทัพนาซีที่พยายามจะเข้ายึดดินแดนบ้านเกิดของเธอด้วย เป็นต้น ยังมีอีกหลายเรื่องราวใน War Stories ที่รอคอยการเปิดตัว รอติดตามกันได้เลย
อาวุธและยานพาหนะ
หลากหลายอาวุธยุปโธปกรณ์ที่ทุกท่านรู้จักกันตามหนังสงครามโลกจะปรากฏใน Battlefield V และนั่นก็รวมไปถึงยานพาหนะหลากหลายรูปแบบกันด้วย อาทิรถถัง Tiger I รถถังสัญชาติเยอรมันที่ใช้ในสงครามโลกจะปรากฏอย่างแน่นอน ส่วนอาวุธนอกจากปืนสงครามโลกธรรมดาแล้ว ทีมพัฒนายังได้แอบยั่วเกี่ยวกับอาวุธลับที่เคยคิดค้นช่วงสงครามโลกแต่ไม่เคยใช้จริงกันด้วย จะมีอะไรบ้างต้องมารอดู แต่ที่แน่ๆ หน้ากากกันแก๊สพิษที่ทุกคนใช้กันระเบิดควันเขียวใน BF1 จะถูกแทนที่ด้วยกล่องเครื่องมือ เอาไว้ใช้สร้างป้อม สิ่งก้อสร้างป้องกันฐานนั่นเอง ใช่แล้ว ในภาคนี้ผู้เล่นจะสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างเป็นของตนเองได้ด้วย นำมาสู่หมวดต่อไป
Fortification
จะเป็นครั้งแรกของ Battlefield ที่ผู้เล่นจะสามารถเปลี่ยนไดนามิคของสงครามได้ด้วยสิ่งก่อสร้าง ในระบบสร้างสิ่งก่อสร้างนี้ ผู้เล่นจะสามารถเลือกที่จะสร้างอะไรหลายๆ อย่างอาทิกระสอบทรายตั้งเป็นกำแพง หรือหลุมป้อมปราการปืนสำหรับยิงกดดันศัตรูก็สามารถสร้างขึ้นได้เช่นกัน อาจจะสร้างกำแพงกันตึกที่เพิ่งโดนทำลายด้วยรถถังอะไรแบบนี้ เพิ่มความสดใหม่ให้กับแต่ละแมทซ์ได้อย่างมากเลยล่ะ ใครยิ่งครีเอทีฟ ตอนเด็กเล่นเลโก้เป็นชีวิตจิตใจคงจะชอบกันแน่ๆ
ระบบปรับแต่งตัวละคร
เลือกสไตล์การเล่นและสไตล์การแต่งตัวในแบบของคุณเองด้วยระบบปรับแต่งตัวละคร ที่ผู้เล่นจะมีอิสระเต็มที่เลยว่าอยากจะให้ตัวละครของพวกเขา หรืออาวุธของพวกเขามีสีสันหน้าตาเป็นอย่างไร ระบบนี้จะมาควบคู่การปลดล็อคพวก Perk หรืออาวุธในเกมปกติ เพราะคราวนี้ผู้เล่นทุกคนจะได้รับทุกอย่างอย่างเท่าเทียมกัน และเพื่อให้ผู้เล่นสามารถสร้างตัวตนของตนเองขึ้นมาในสงครามสุดเดือดระห่ำครั้งนี้ได้ อยากจะพรางหน้าเป็นสีน้ำเงิน ใส่แจ็คเก็ตสายเท่ๆ เลือกได้ตามสบาย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้เล่นมีอิสระต่อรูปแบบ สไตล์ที่ตนอยากจะเป็นมากที่สุด
ไม่มี Premium Pass อีกต่อไป
ต่อให้รวยมาจากไหนในชีวิตจริง คุณก็ไม่สามารถเก่งกาจไปกว่าผู้เล่นภายในเกมได้ เพราะผู้เล่นจะต้องเล่นเกมจริงๆ ถึงจะได้ปลดล็อคอะไรใหม่ๆ ข้อสำคัญคือในภาคนี้จะไม่มี Premium Pass อีกต่อไป ไม่มีการจ่ายเงินเพื่อโหมดใหม่ หรือแผนที่ใหม่อีกต่อไป คอนเทนต์หลังจากวางจำหน่ายเกมทุกอย่างจะเป็นของฟรีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ใหม่ อาวุธใหม่ โหมดใหม่และอีกมากมาย
นำเสนอ ‘Tides of War’ รูปแบบกิจกรรมการปล่อยคอนเทนต์ของทีมพัฒนา ที่เล็งจะให้ผู้เล่น BFV ได้ฝ่าสงครามหลากหลายช่วงเวลาและหลากหลายสถานที่ไปด้วยกันเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งผู้เล่นที่เข้าร่วมทำกิจกรรมที่จะอยู่ยาวราวๆ สามสี่เดือน ก็จะมีสิทธิ์ได้รับสกินอาวุธ สกินตัวละคร ลายพรางหน้าใหม่ๆ และอีกมากมายเยอะแยะไปหมดตามธีมของแต่ละกิจกรรม เริ่มกันหลังจากวางจำหน่ายไปประมาณสองสามเดือน ซึ่งจะโฟกัสไปที่ยุคตกต่ำในยุโรปเป็นหลัก ผู้เล่นจะมีความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในสงครามจริงๆ ที่กำลังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จริงๆ ตลอดปี 2019 แน่นอนครับ
สุดท้ายนี้คือวันวางจำหน่าย Battlefield V จะวางจำหน่ายใน วันที่ 19 ตุลาคม 2018 ห่างจากคู่แข่งแค่สัปดาห์เดียวเอง เกมเมอร์สายยิงได้คิดหนักกันแน่นอน ฮา และหากใครสั่งซื้อล่วงหน้าวันนี้รับสิทธิ์เข้าทดสอบเบต้าทันทีครับ
รวมทุกรายละเอียดจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Call of Duty: Black Ops 4
