by penguin | Review | 0 Comments | 21 มิ.ย. 2018 | เปิดดู

กาลครั้งหนึ่งนานแสนนานมาแล้ว เคยมีดินแดนหนึ่ง เรียกกันว่า Urralia เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นบ้านของหลากหลายชนเผ่า พระเจ้าได้ฝากฝังความเชื่อให้กับเผ่านกในการปกครองและดูแลผู้คนทั่วอาณาจักร ผู้คนอยู่อย่างสงบสุขภายใต้ชื่อชองอาณาจักร Pygarian…… กระทั่งเมื่อ 7 ปีก่อน ดินแดน Pygaria เริ่มนำผู้คนจากเผ่าแมวและสุนัขมาฝึกฝนเป็นทหาร และยิ่งพวกมันแกร่งขึ้น ผู้คนในเผ่าอื่นก็ยิ่งทุกทรมานจากการกดขี่ของสองพรรคนี้มากขึ้น

ผู้นำจากเมืองใกล้เคียงในชื่อ Rodentia ที่ประกอบไปด้วยหนูและหมี มิอาจทนเห็นผู้คนถูกกดขี่จากเหล่าหมาและแมวภายใต้การปกครองของจักรพรรดินกเผด็จการ Indrik ได้ จึงลุกขึ้นต่อต้านการกดขี่ กลายเป็นสงครามระหว่างสองดินแดนใน Urralia และวันนี้ คือวันสุดท้ายของสงคราม ที่ๆ ทหารฝ่าย Pygaria จะลั่นกลองรบถล่ม Rodentia ให้สิ้นซากและยึด Pygaria ที่เคยเป็นของเขากลับคืนมา หารู้ไม่เลยว่าในอีกด้านหนึ่ง Vera เจ้าหญิงเทพแห่ง Urralia ผู้เดียวที่ปกป้องดินแดนแห่งนี้จากภัยร้ายต่างมิติ ได้ถูกลอบปลงพระชนม์อย่างปริศนา และนั่นหมายถึงว่าจุดจบกำลังจะใกล้เข้ามาทุกที…

เราคือ Harbinger เทพผู้พิทักษ์แห่ง Urralia ที่จะปรากฏตัวเฉพาะในวันที่โลกกำลังจะถึงคราวล่มสลาย มีหน้าที่หยุดยั้งเหตุการณ์สำคัญที่จะนำไปสู่จุดจบของโลก และหลังจากหลับไหลนานเป็นพันปี บัดนี้เขาจะต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่อีกครั้งเมื่อพบว่าเจ้าหญิง Vera ได้สวรรคต และ Voder ปีศาจแห่งความมืดสวยโอกาสที่เจ้าหญิงเทพ Vera สวรรคตในการปรากฏตัวเพื่อกลืนกินโลก งานของเขาคือต้องหาผู้ที่ลอบสังหารเจ้าหญิงเทพ Vera และหยุดไม่ให้ปีศาจ Voder ออกมาล้างบางโลกให้ได้

GameWorld.in.th ขอขอบคุณคีย์รีวิวบน PC จากทาง Evolve และ Spearhead Games มา ณ.ที่นี้
Evolve and Spearhead Games have provided GameWorld.in.th with Steam CD-key for this review. Thanks you and best regards.

เนื้อหาของ Omensight จะออกแนวสืบสวนปริศนาฆาตกรรม ที่ๆ เราในฐานะ Harbinger จะต้องออกสืบสวน สะสมและรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อตามหาตัวผู้ร้ายที่ลอบปลงพระชนม์เจ้าหญิงเทพ Vera มาให้ได้ ผู้เล่นจะถูกส่งไปยังวันสุดท้ายก่อนโลกจะแตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นวันเดียวกับที่กองทัพ Pygaria เตรียมเข้าโจมตีเมืองหลวง Rodentia เพื่อจบสงคราม แต่เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อยุ่งอะไรกับเรื่องราวการเมืองของดินแดน เรามาเพื่อหยุดปีศาจ Voder และนั่นคือหน้าที่เดียวที่เรามี ผู้เล่นจะต้องติดตามการเดินทางของผู้ต้องสงสัยหลักๆ เพื่อค้นหาว่าพวกเขามีส่วนรู้อะไรเกี่ยวกับการตายของเจ้าหญิงเทพ Vera และหาวิธีหยุดปีศาจ Voder ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ ใน Omensight ก็คือการกลับไปเล่นด่านเดิมซ้ำๆ ซากๆ เพื่อมองหาแนวทางการแก้ปัญหาแบบใหม่ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

หากใครคุ้นเคยคอนเซปต์ย้อนเวลาวันเดียวซ้ำซากจากหนังอย่าง Edge of Tomorrow ที่ทอม ครูชแสดงก็จะบางอ้อกับคอนเซปต์เกมอย่างง่ายดาย และเพราะอย่างนั้นหลายคนจึงสงสัยว่า ‘แบบนี้จะไม่ทำให้เกมซ้ำซากน่าเบื่อเหรอ’ เป็นเซอร์ไพร์สของผู้เล่นเหมือนกันที่ต้องบอกว่า ‘ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว’ Omensight รู้ตัวเองดีว่าเป็นเกมอย่างไร พึ่งพาความซ้ำซากเป็นจุดขาย ดังนั้นจึงต้องหาความสดใหม่ตลอดเพื่อให้เกมไม่น่าเบื่อ

และทีมพัฒนาก็ถือว่ารับมือได้ดีกับปัญหาใหญ่ของคอนเซปต์ย้อนเวลาซ้ำซาก ด้วยการนำเสนอระบบตัวเลือกในเกม ในบางฉากที่เราตามการผจญภัยไปกับคู่หูผู้ต้องสงสัย ผู้เล่นอาจจะได้พบกับผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ ที่เผอิญเส้นทางมาบรรจบกัน หลายต่อหลายครั้งผู้ต้องสงสัยที่มาเจอกับเรามักจะมีปัญหากับคู่หูที่เราเดินทางติดมาด้วย และผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่าจะใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการต่อสู้ หรือจะใช้พลัง Omensight แสดงหลักฐานภาพเหตุการณ์ที่เราค้นพบให้พวกเขาดูแล้วคุยแก้ปัญหากันก็ได้

ทั้งนี้ตัวเกมไม่ใช่แนว Choice Matter ที่ตัวเลือกของเราจะมีผลกระทบกับอนาคตถาวรอะไรแบบนั้น อย่าลืมว่าเราย้อนเวลาได้ตลอดดังนั้นเราสามารถกลับมาเล่นฉากเดิมเหตุการณ์เดิมซ้ำๆ ได้อีกรอบเพื่อมองหาหลักฐานข้อมูลชิ้นใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา บางครั้งความรุนแรงก็เป็นทางเดียวที่จะแก้ปัญหาและค้นพบข้อมูลใหม่ๆ แต่บางครั้งเลือกเส้นทางคุยก็ได้ผลดีไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับผู้เล่นแล้วล่ะว่าจะเลือกการกระทำแบบไหน

นอกจากนี้แล้วยังมีในส่วนของการออกแบบด่านที่เต็มไปด้วยประตูล็อคและแม่กุญแจหลากสี ทางเดียวที่เราจะเปิดประตูเหล่านี้ได้ก็คือเรียนรู้วิธีเปิดจากผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ ที่เราจะต้องติดตามการผจญภัยไป สองอย่างที่เราว่ามานี้ ทำให้การกลับมายังด่านเดิมซ้ำๆ ต่อสู้กับศัตรูรูปแบบเดิมๆ ไม่น่าเบื่อมากจนเกินไป ทั้งเกมมีแค่ 5 ด่านแต่ผู้เล่นจะได้กลับมาเล่นด่านเดิมซ้ำๆ ทั้งในกลางวันและกลางคืนอย่างน้อย 4-5 ครั้งได้ ดังนั้นก็เตรียมใจกันไว้ด้วยล่ะ

แล้วทำไมเราจะต้องตามการผจญภัยเหมือนเบ๊รับใช้สิ่งที่ผู้ต้องสงสัยต้องการไปด้วยล่ะ คุยเค้นข้อมูลเอาไม่ง่ายกว่าเหรอ …Harbinger เป็นใบ้ครับ เธอไม่พูดสักคำตลอดทั้งเกม มีเพียงสองทางที่เธอใช้สื่อสารกับผู้คนเป็นหลัก หนึ่ง ผ่านนิมิต และสอง ผ่านคมดาบ และเธอต้องใช้คมดาบนี่ล่ะในการโน้มน้าวให้ผู้ต้องสงสัยเชื่อใจเรา ด้วยการร่วมต่อสู้ไปกับพวกเขานั่นเอง

แต่เพราะเธอเป็นใบ้เนี่ยแหละ หลายต่อหลายครั้งมันก็ทำให้ผู้เล่นน่าหงุดหงิดดีเหมือนกัน โดยเฉพาะผู้ที่คร่ำครึมากับหนังแนวสืบสวนอาจจะต้องขัดใจกับหลากหลายปัญหาในเกมที่ชัดเจนว่าแก้ไขได้ด้วยการ ‘พูด’ แต่เจ้า Harbinger อนิจจากรรมโถ้ดันไม่พูดแม้แต่คำเดียวทั้งเกมเลยนี่สิ ปัญหานี้จะชัดเจนเอามากๆ ในช่วงกลางเกมที่ชัดเลยว่าผู้เขียนอาศัยความใบ้ของ Harbinger ยืดเนื้อหาเกมยาวออกมากไปหน่อย ตัวละครที่ชัดเจนว่าเป็นผู้ร้ายก็เอาแต่ทำทีท่าว่าจะสารภาพก็เอาแต่อึกอักไม่ยอมพูด ยืดเรื่องยาวออกไปอย่างไม่จำเป็นเข้าไปอีก แต่ถ้าพูดในภาพรวมแล้วเนื้อหาทำได้ดีพอสมควร น่าติดตามมากๆ เลยล่ะ

Omensight ไม่ได้เป็นแค่เกมสืบสวนขายเนื้อเรื่อง แต่เป็นเกมแอ็คชั่นฟันแหลกที่ขายระบบการต่อสู้ด้วย และเรากล้าบอกเลยว่าระบบการต่อสู้นี่แหละคือเหตุผลหลักที่ทำให้คุณยินดีกลับมาเล่นด่านเดิมซ้ำๆ ซากๆ ….เราไม่ได้บอกว่าเนื้อหาไม่ดีจนต้องพึ่งระบบการต่อสู้ให้ผู้เล่นกลับมาเล่นต่อ แต่เพราะระบบการตอสู้ที่ดีของ Omensight มันช่วยส่งเสริมเนื้อหาให้เป็นเกมที่ดีแม้แต่ผู้ที่ไม่สนใจเนื้อหาก็สนุกได้ต่างหาก, แม้ดูภายนอกจะดูเป็นเกมฟันดาบธรรมดา มีท่าฟันแรงและฟันเร็ว ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เราบอกเลยว่ามันยากและท้าทายฝีมือกว่าที่คุณคิด ผู้เล่นจะต้องกะเวลาหลบให้ดี ฟันมั่วแหลกอย่างเดียวไม่ได้เพราะเรารับรองคุณตายแน่ ผู้เล่นยังต้องใช้ทุกสกิลที่มีในการเอาชนะเหนือศัตรู มีทั้งสกิลทำให้เวลาช้าลง สกิลยกของโยนใส่ศัตรู แถมพอทำคอมโบได้ระดับนึงแล้วยังปล่อยกระบวนท่าพิเศษอาทิปล่อยคลื่นพลังได้ด้วย

เป็นระบบการต่อสู้ที่เข้าถึงง่าย ไม่มึความซับซ้อน ไม่ต้องจำคอมโบอะไร แต่สนุกและยากที่จะเล่นให้เก่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลังจบวันผู้เล่นจะถูกส่งกลับมายังฐานหลัก ที่นี่ ผู้เล่นจะสามารถอัพเลเวลตัวละครเพื่อปลดล็อคพลังใหม่ๆ หรืออัพเกรดพลังที่มีจาก Amber ค่าเงินในเกมที่หาได้ตามกล่องสมบัติหรือข้าวของที่ทำลายได้ก็ได้ ฐานหลักเรายังเป็นที่สำคัญในการเช็คข้อมูลการสืบสวนของเรา รวมไปถึงการเลือกผู้ต้องสงสัยที่เราจะกลับไปร่วมงานได้ด้วย

ในด้านอื่นๆ ของเกมก็ยังถือว่าน่าประทับใจ กราฟิคที่เข้าถึงง่าย หน้าตาสดใสสบายตาสไตล์เกมแฟนตาซีทำให้ไม่ว่าจะเป็นคุณหนูหรือคุณพ่อก็เล่นได้ไม่มีปัญหา การพากษ์เสียงตัวละครทำได้ไม่เลวเล่นแล้วก็อินอยู่เหมือนกัน องค์ประกอบอื่นๆ ในมุมมองรวมๆ ถือว่าสอบผ่าน

สรุป

ด้วยเนื้อหาที่รวมๆ ก็สนุก สดใหม่ไม่ค่อยเห็นในวงการเกม มีความน่าติดตามและเข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องใช้ทักษะภาษาเยอะ ประกอบกับระบบการต่อสู้ที่เรียบง่ายแต่ก็ท้าทายฝีมือพอควร Omensight คือเกมที่เล่นได้ทุกเพศทุกวัย ไม่มีความรุนแรงระดับที่ต้องเอามือมาปิดตาเด็กๆ ในขณะเดียวกันเนื้อหาก็ไม่ได้เป็นการ์ตูนเด็กสามชวบ จัดเป็นเกมที่ดีในทุกระดับประทับใจ ถือเป็นหนึ่งในเกมอินดี้ที่ดีที่สุดของปี 2018 และใครที่มีโอกาสได้ลองก็ควรจะลองเปิดใจเล่นกันสักครั้งดู รับรองว่าจะติดใจ Omensight วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PS4, และ PC