[★] [Review] Mighty No.9 เกมที่น่าผิดหวังแห่งปี จากผู้ให้กำเนิด Rockman!

ผมสามารถพูดได้เลยว่าผมไม่เคยอยากจะปาจอยทิ้งมาก่อน จนกระทั่งวันที่ผมได้มาสัมผัสกับเกมๆ นี้ Mighty No.9

ในระหว่างที่สู้กับบอสแล้วโดนโจมตีที่ดูยังไง๊ยังไงก็ไม่น่าจะโดน แล้วเวลานั้นดันเป็นเลือดขีดสุดท้ายซะด้วย ผลก็คือโดนส่งกลับไปเริ่มต้นในด่านนั้นใหม่ (เป็นครั้งที่สาม) มันเกือบจะทำให้ผมเป็นบ้าไปเลยที่เดียว การได้เล่นเกม Mighty No.9 มันได้รับแต่ความน่าผิดหวังมากกว่าความสนุกที่คาดหวังไว้ซะอีก!!!

• What is it Mighty No.9 ? Mighty No.9 เป็นเกมที่สืบทอดจิตวิญญาณของความเป็น Rockman ที่สร้างชื่อเสียงให้กับผู้ให้กำเนิดเกมนี้อย่าง Keiji Inafume

• รีวิวบนเครื่อง : Nvidia GTX 970, Intel Core i5-4670, 8GB RAM

• ราคา : $20

• วันวางจำหน่าย : Out now

• ผู้ให้บริการ : Deep Silver

• ผู้พัฒนา : Comcept

• Multiplayer: Online co-op, Online battle race

• ลิ้งค์ : Official website 

Mighty No.9 เป็นเกมที่สืบทอดจิตวิญญาณของความเป็น Rockman ที่สร้างชื่อเสียงให้กับผู้ให้กำเนิดเกมนี้อย่าง Keiji Inafume นั่นเป็นการปลุกวิญญาณความคลาสสิกของเกม Rockman ให้กลับมาอีกครั้ง แต่ก็ควรจะพัฒนาและปรับปรุงให้มันมีเอกลักษณ์ที่จะสามารถแข่งกับเกมใหม่ๆ ได้

ตัวเกมยังทำออกคล้ายๆ กับของเดิมคือแนววิ่งแบบ side-scrolling ไปทางขวา แล้วยิงกระสุนกลมๆ โง่ๆ ไปที่ศัตรู เพื่อให้ผ่านแผนที่และอุปสรรคไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่แตกต่างอยู่หน่อยก็ตรงที่ตัวละครหลักอย่าง “Beck” นั้นมีความสามารถที่ Rockman ไม่มีคือ การยิงจนกระทั่งศัตรูใกล้จะตายแล้วพุ่งแดชเข้าใส่เพื่อจัดการให้ตายคาทีแล้วจะได้ดูดซับพลังงาน “Xel” เข้าไปซึ่งจะช่วยทั้งการเพิ่มความเร็ว, พลังโจมตี, พลังชีวิต หรือพลังป้องกัน

ในขณะที่กลไกความสนุกของเกมได้มีการปรับเปลี่ยนไปอย่างมากต่างกับเกมอื่นๆ ของตัว Inafume จากผู้สร้าง Mighty No.9 โดยเกมนี้คุณอาจจะต้องทำความเข้าใจกับเทคนิคในการเล่นเกมอย่าง ศัตรูแต่ละตัวจะต้องยิงกี่ครั้ง ก่อนที่เราจะแดชเพื่อเก็บ Xel จากการฆ่ามัน การจัดการดาเมจที่ทำกับศัตรู การใช้ Xel อย่างคุ้มค่าก็จะช่วยให้คุณผ่าน Level นั้นๆ ได้รวดเร็วขึ้น

ทางด้านของกลไกการเคลื่อนไหวของการกระโดดและการแดชดูจะไม่ลื่นไหลอย่างที่หวังไว้สักเท่าไหร่ แต่ผมก็ประหลาดใจนะที่ผมได้สนุกกับการเรียนรู้รูปแบบการโจมตีของศัตรู, การจัดวาง Level, การโจมตีของบอส และการใช้เครื่องมือความสามารถต่างๆเพื่อที่จะทำการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นี่ถือเป็นจุดดีที่ผมได้รับจากเกมนี้

แค่เห็นสีชมพูก็แหยงแล้ว!

มันน่าเสียดายที่เครื่องมือ Object ต่างๆ ที่ใส่ไปใน Environment ของเกมส่วนใหญ่มันทำลายความรู้สึกดีๆ กับเกมไปจนจะหมด การออกแบบ Level ในเกม Mighty No.9 มันสุดแสนจะน่าเบื่อเสีย และจะเป็นตราบาปให้เกมนี้เป็นเกมที่น่าผิดหวังที่สุด พวกเค้าใส่ตัวศัตรูเหล่าลูกกระจ๊อกมาน้อยมากเมื่อเทียบกับความยาวของเกมนี้ประมาณ 4 ชั่วโมง Object ที่มีสีชมพูเรืองแสงหน่อยๆ (ส่วนมากจะเป็นพวกหนาม) ที่จะฆ่าให้เราตายในทันทีที่ไปโดนมันเข้า ซึ่งมันอาจจะซ่อนอยู่หรือวางให้เห็นแต่ก็ขวางเส้นทางเรามากจนเกินไป

โดยใน Level Power Planet ผมได้ลองบู๊ไปจนสุดทางทั่วทั้ง Level ก็พบว่ามันแทบจะไม่มีทางไหนที่จะผ่านไปแบบไม่เจออุปสรรคมากๆ เลย ซึ่งทางจะผ่านไปนั้นโดนบล็อกทางด้วย กังหันยักษ์สีชมพู ที่โดนทีเดียวก็ตายทันที และทางที่จะผ่านไปได้นั้นก็มีช่องว่างเพียงน้อยนิด พอเจอแบบนี้แล้วก็สับสนและลังเลมากว่าจะทำยังไงต่อจนสักพักนึง ก็มีกล่องข้อความช่วยชีวิตเด้งขึ้นมาว่าให้เรา “ หมอบและ Dash ” เพื่อที่จะลอดผ่านช่องว่างนั้นไปทั้งหมดที่กล่าวมานี้มันทำให้ผมตระหนักได้ว่าเกม Mighty No.9 มีจุดอ่อนตรงที่การนำเสนอการออกแบบ Level ที่อยู่ในระดับกิ๊กก๊อกมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นไปซะทุก Level ที่ทำออกมาได้แย่ ส่วนในด้านการออกแบบเรียกว่าออกแบบมาได้น่าเบื่อและซ้ำซาก 

อย่างใน Level ของศาลาว่าการที่ให้เราไล่ตามเพื่อฆ่าหุ่นยนต์ Sniper ที่ชื่อว่า Countershade โดยจะต้องไล่ตามไปในห้องโถงซึ่งยาวมว๊ากกก แล้วยังต้องวิ่งผ่านที่เดิมๆ เหมือนถูกใช้ซ้ำหลายๆ ครั้งภายใน Level เดียวกัน ที่ดูเหมือนสิ้นคิดและไม่สร้างสรรค์เอาซะเลย นั่นทำให้ความสนุกมันหายไปเรื่อยๆ และก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ด่านนี้เป็นด่านเดียวที่ไม่มีจุด checkpoint ให้เรากลับมาเกิดใหม่

หลังจากที่โดนบอสจัดการโดยมีกับดักในนั้นเป็น สายไฟฟ้า ที่โดนทีเดียวก็ซี้แล้วแถมมันแผ่ขยายไปทั้งบนเพดานและบนพื้น โดยค่อยๆ เปิด-ปิด สลับกันไปรอฆ่าผู้เล่นให้กลับไปเกิดใหม่ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของด่านกันเลยทีเดียว การตายแบบนี้ในเกม Rockman มันยังทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าต้องทำให้มันดีกว่านี้สิ แต่ในทางตรงกันข้ามกับ Mighty No.9 มันกลับให้ความรู้สึกที่แบบว่า เฮ้ย! เจอแบบนี้อีกแล้วหรอ นั่นก็ตายนี่ก็ตายมันดูเยอะและซ้ำซากมากเกินไปจนหมดกำลังใจจะเล่นต่อไปอีก

เกมนี้ถูกปล่อยออกมาในช่วงเวลาที่ไม่ดีเอาซะเลยตั้งแต่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายมาหลายครั้ง และทุกๆ อย่างดูจะเป็นเพียงแค่ก้อนโพลีก้อนเหลี่ยมๆ ที่มีรายละเอียดต่ำมาก, คัทซีนก็เป็นเพียงภาพเคลื่อนไหวที่มีเสียงพากย์แต่ตัวละครเหล่านั้นกลับไม่ขยับปากเลย จนต้องกรอกตามองบนแล้วบ่นออกมาว่านี่มันเกมปี 2016 แน่หรอนี่ และทั้งหมดก็จบลงด้วยภาพรวมของเกมเหมือนเป็นแค่แบบร่างของตัวเกมที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์และก็เอาออกมาจำหน่ายทั้งๆ แบบนั้น

อนุภาคของควันไฟมันดูแย่และไม่สมจริงเป็นอย่างมาก การระเบิดก็ดูไม่รุนแรงเท่าไหร่ ในฉากคัทซีนเราก็จะเห็นภาพมุมสูงของเมืองที่เต็มไปด้วยไฟไหม้ และตึกเหล่านั้นมันก็ดูเหมือนกันไปซะหมดอย่างกับแค่ Copy แล้ว Paste วางมันซะดื้อๆ อย่างนั้น และในขณะเดียวกัน การออกแบบของตัวละครเอกอย่าง Beck กับบอสทั้งหลายที่มี Concept Art ที่ดูน่าสนใจ แต่พอเอามาทำเป็นตัวภาพเคลื่อนไหวมันกลับดูไร้ชีวิตชีวาและดูไม่มีมิติซะงั้น

ตีโดนแต่เหมือนจะ Miss เกือบหมด เอ๊ะ! ยังไง

ถึงเราจะมองข้ามความสวยงามของกราฟฟิคไปได้ในบางเกมเพราะนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยสำคัญนัก แต่กับเกม Mighty No.9 ที่ใช้ Animation 2.5D ที่มองดูไม่สวยเอาซะเลยแถมยังมีผลกับการเล่นเกมอีกด้วย ภาพที่เป็นก้อนๆ ของตัวศัตรูต่างๆ ทำให้ hitboxes (หรือกรอบของการโดนโจมตี) มันดูไม่ชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่ออย่างเช่น บอสตัวแรกของเกมที่เป็นหุ่นยนต์ไฟชื่อ Pyrogen การโจมตีที่เป็นการระเบิดของมันแม้จะมองออกได้ง่ายๆ แต่การที่จะหลบมันนั้นยากมากเลยทีเดียว เป็นเพราะว่าถึงเราจะเห็นตัวลูกการโจมตีของมัน แต่มันจะมีขอบเหลื่อมออกมานิดนึงซึ่งนิดนึงนั้นเองก็ทำให้เราโดนโจมตีได้ง่ายๆส่วนที่น่าผิดหวังอีกหนึ่งอย่างเกี่ยวกับตัว Mighty No.9 นั่นก็คือการที่บอสและศัตรูของเกมที่ทำให้นึกถึงเกม Rockman แต่ Concept ของการออกแบบในด้านการโจมตีตัวมันกลับทำออกมาได้แย่มาก บอสตัวสุดท้ายของเกมนั้นมีความท้าทายแต่เราก็ค่อยๆ เรียนรู้การสู้กับมันได้ดีขึ้นทุกครั้งที่ต่อสู้ซ้ำแล้วซ้ำอีกดั่งเช่นในเกม Rockman แต่เพราะตัว Hitboxes และตัวกราฟฟิคที่มันไม่ค่อยชัดเจนทำให้ความท้าทายนั้นกลายเป็นความเซ็งไปกับมันแทนที่จะกระตุ้นความอยากที่จะสู้กับมันใหม่ ประสบการณ์ความสนุกก็ได้มลายหายไปกับข้อเสียในส่วนนี้ด้วย

เรื่องของ Performance การทำงานของตัวเกมสำหรับเวอร์ชั่น PC นั้น Mighty No.9 ถือว่าทำออกมาได้ดีประมาณนึงอาจจะมี Frames Drop เป็นบางครั้งบ้างตอนที่เราแดชไปในดงศัตรูเป็นกลุ่ม 4 ตัวขึ้นไป การเล่นเกมในโหมดของ Borderless windowed ก็ไม่มีปัญหาใดๆ แต่ปัญหาที่แย่ที่สุดของตัวเวอร์ชั่น PC คือการควบคุม ที่เกมนี้ไม่ได้ทำออกมาเพื่อรองรับการใช้เมาส์และคีย์บอร์ด ถึงแม้จะไม่ได้เสียบตัวจอยต่างๆ ไว้แต่ตัวข้อความ Tutorial ที่แสดงออกมากลับเป็นของ Xbox ทั้งหมดเลยทำให้ต้องเข้าไปเช็คในเมนู Keybindings เพื่อศึกษาวิธีการเล่นของมันด้วยตัวเอง ซึ่งแม้จะพยายามเรียนรู้การเล่นโดยไม่ใช้จอยแต่มันก็เล่นยากมากจริงๆ

สรุปเกม Mighty No.9

โดยรวมแล้วกับราคาที่ออกมา 369 บาทใน Steam สำหรับเวอร์ชั่น PC (ไม่รวม DLC) และ $19.99 หรือประมาณ 700 กว่าบาทบนคอนโซลทั้ง PlayStation4 และ Xbox One และสำหรับเครื่องอื่นๆ อย่าง PlayStation 3, Xbox 360, Wii U, PlayStation Vita, Nintendo 3DS, Shield Portable ก็จะมีขายตามมาในภายหลัง

ถ้าถามว่าคุ้มมั้ย ??? ซื้อบน PC เถอะครับถูกกว่ากันเยอะแถมคุณภาพของตัวเกมก็ไม่ได้ดีสมกับราคาที่วางจำหน่าย แต่รับประกันได้เลยว่าคนเล่นจะได้รับประการณ์ความหัวร้อนเทียบเท่ากับเกม Dark Soul อย่างแน่นอนครับ สุดท้ายนี้การรีวิวที่ผ่านมาเป็นทั้งประสบการณ์ตรงที่ได้จากการเล่นและวิเคราะห์เกมนี้อย่างถีถ้วนอาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใครบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่อย่างไรก็ตามแฟนๆ รุ่นเดอะของเกม Rockman ก็น่าจะหาซื้อมาเก็บไว้เป็น Collection เกมของผู้สร้างอย่าง Keiji Inafume ที่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีเกมใหม่ๆ อะไรให้เราได้เล่นกันอีกมั้ย แต่ถ้าซื้อมาเล่นเพลินๆ ไว้ฆ่าเวลาระหว่างรอวันที่ทางค่ายแคปหมู Capcom สร้าง Rockman ภาคต่อออกมาให้เล่นกันก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว

คะแนน : 54/100 

ขอบคุณ PCGAMER

• Facebook
• X
• Line