รีวิว Dragon Nest II : Legend ภาคต่อสุดยอดเกม Action แห่งตำนาน

[★] [Review] Dragon Nest II : Legend ภาคต่อสุดยอดเกม Action แห่งตำนาน

author image by GM News | Review Special Post AD | 0 Comments | 27 ก.พ. 2017 | เปิดดู

เชื่อว่าหลาย ๆ คนในที่นี้น่าจะต้องเคยเล่นเกมซีรี่ย์ระดับตำนานอย่าง “Dragon Nest” บน PC มาก่อนแล้วเป็นแน่แท้ หากย้อนกลับไป Dragon Nest ถือเป็นเกม Action RPG ที่ถูกจับตามองมากที่สุดทั้งก่อนเปิดและหลังเปิดให้บริการ เพราะด้วยงานออกแบบของตัวละคร, รูปแบบการเล่น, ท่วงท่าอนิเมชั่น, เอฟเฟค, และเนื้อเรื่องที่ถือว่าทำออกมาได้ลงตัวเอามาก ๆ

จนถึงตอนนี้สำหรับตัวผู้เขียนเองก็ยังไม่เคยหาเกมไหนมาเทียบกับ Dragon Nest ได้เลย และแน่นอนเมื่อตัวเกมออกภาค 2 ได้ถูกปล่อยออกมาผมเองก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปสัมผัสมันอย่างแน่นอน โดยตอนนี้ตัวเกมก็กำลังอยู่ในช่วงทดสอบรอบ CBT ที่เกาหลีกันอยู่ ซึ่งจะเปิดให้เล่นไปจนถึงถึง 1 มีนาคม 2017 นี้ ทาง GameWorld เลยถือโอกาสหยิบยกตัวเกมมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับ

Dragon Nest II : Legend
ค่ายผู้เปิดให้บริการ : Nexon
การให้บริการ : ฟรี
เรทของแอปพลิเคชั่น : 12+
แพลตฟอร์ม : Android 4.0.3+
ขนาดของแอปทั้งหมด : 1.5 GB
ภาษา : ภาษาเกาหลี

ดาวน์โหลดแอปได้ที่นี่

เกี่ยวกับตัวเกม

https://www.youtube.com/watch?v=H00eU3RvYqw&feature=youtu.be

Dragon Nest II : Legend เป็นเกมมือถือแนว Action RPG ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมพัฒนา Eyedentity Studio และเปิดให้บริการโดยค่าย Nexon โดยเนื้อเรื่องของเกมในภาคนี้เป็นเรื่องราวของเมื่อ 500 ปีก่อนจากเกม Dragon Nest บน PC ซึ่งภายในเกมเราก็จะได้พบกับตัวละครบางตัวที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี นอกจากนี้ตัวเกมในภาคนี้ยังมีความโดดเด่นในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะระบบ Action ของตัวเกมที่การันตีได้เลยว่าโดดเด่นและไม่เหมือนกับเกมแนว Action RPG บนมือถือเกมอื่น ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งจุดเด่นหลัก ๆ ของเกมนี้ที่ผมขอพูดถึงเป็นเรื่องแรกก็คือด้าน

กราฟฟิก และงานออกแบบ โดยในภาคนี้ตัวเกมได้ทำการเปลี่ยนงานออกแบบตัวละครรวมไปถึงสภาพแวดล้อมใหม่ทั้งหมด โดยเปลี่ยนจากตัวละครน่ารัก ๆ กลายมาเป็นตัวละครแบบสมจริงสมจัง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสาวกเกมนี้จะรับได้มากน้อยขนาดไหน) แต่ยังใช้เหล่ามอนสเตอร์หน้าเดิม ๆ อยู่ ทำให้ใครที่เคยเล่นภาคแรกมาจะต้องรู้สึกแปลกใจและอยากพบกับเหล่ามอนสเตอร์ที่คุณชอบอย่างแน่นอน ส่วนงานกราฟฟิกก็ยังถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ภาพสวยคม แต่ไม่หนักเครื่องจนเกินไป ส่วนด้านเอฟเฟคนั้นก็ยังคงงดงาม รวมไปถึงงานด้านอนิเมชั่นเวลาต่อสู้และการใช้สกิลของตัวละครก็พลิ้วไหวยอดเยี่ยมไม่ต่างจากในภาคแรกเลย

ระบบสกิล ถือเป็นอีกหนึ่งระบบที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เด็ดขาด เพราะภายในเกมนี้เราจะสามารถสร้างท่าคอมโบสกิลขึ้นมาได้ค่อนข้างอิสระเอามาก ๆ และสามารถจัดท่าสกิลได้สูงสุด 2 ชุดสกิลด้วยกัน โดยใน 1 ชุดเราจะสามารถต่อคอมโบได้ยาวสูงสุด 4 สกิล โดย 3 สกิลเป็นสกิลทั่ว ๆ ไป ส่วนสกิลที่ 4 จะเป็นสกิลพิเศษ ส่วนการใช้งานระบบสกิลนั้นค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์อยู่พอสมควร

การใช้สกิล โดยการใช้สกิลนั้นเมื่อเรากดใช้ ระบบของเกมก็จะเปลี่ยนปุ่มโจมตีธรรมดาให้กลายเป็นสกิลอีกหนี่งสกิลที่เราได้เซ็ตเอาไว้แบบอัตโนมัติ โดยเราจะต้องกดใช้สกิลให้ถูกจังหวะเพื่อให้ผลของการใช้สกิลนั้นออกมาได้ยอดเยี่ยมสูงสุด เพราะหากเรากดพลาดสกิลที่เราเซ็ตไว้ต่อไปก็จะไม่ปรากฎออกมานั่นเอง

ตัวละคร ในเกมนี้จะมีตัวละครให้เราได้เลือกเล่นทั้งหมด 3 ตัวละครด้วยกันคือ สายดาบ, ขวานยักษ์, และไม้เท้าจอมเวทย์ ซึ่งจากที่ลองสัมผัส ตัวละครแต่ละตัวจะมีสกิลและลักษณ์เด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้สิ่งที่ผมชอบมาก ๆ สำหรับเกมนี้อีกหนึ่งอย่างก็คือ หน้า “Home” ของตัวเกม ที่เราสามารถเดินไปไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็น คุยกับ NPC หรือจะปลูกผัก-เก็บผัก ก็ทำได้ทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตามตัวเกมก็ยังคงเป็นเกมแบบลงดันเจี้ยน ที่เราจะต้องปลดล็อคด่านก่อนหน้าเพื่อผ่านอื่น ๆ ต่อไปนั่นเอง

การอัพเกรดตัวละคร ที่เด่นชัดสุดคือระดับเลเวลซึ่งเราต้องเก็บให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ โดยอุปกรณ์สวมใส่นั้นถือเป็นระบบการอัพเกรดตัวละครระบบแรกที่เราสามารถดัดแปลงได้อย่างอิสระ ส่วนอาวุธก็สามารถอัพเกรดระดับได้ผ่านการย่อยอาวุธ รวมไปถึงเรายังสามารถใส่ Gem เพื่อเสริมความสามารถของตัวอุปกรณ์เพิ่มเติมได้อีกด้วย

โหมดการเล่นที่หลากหลาย ทั้งนี้นอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้วตัวเกมยังมีโหมดการเล่นอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งสำหรับการเปิดทดสอบในรอบนี้เราก็จะได้สัมผัสกับ “โหมดหาเงิน”, และ “โหมดเก็บ EXP” ได้ ซึ่งในโหมด EXP นั้นถือว่าเป็นโหมดที่ทำให้เราสามารถเก็บเลเวลตัวละครได้รวดเร็วกว่าโหมดเนื้อเรื่องสูงมาก แต่โหมดเหล่านี้เราสามารถเข้าใช้งานได้เพียง 3 ครั้งต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ยังมี “โหมด PVP” ที่เราจะได้ปะทะกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ได้แบบ 1 : 1 มาให้เล่นอีกด้วย

จุดเด่นจุดด้อยของตัวเกม

จุดเด่น : Dragon Nest II : Legend เป็นเกมแนว Action RPG ที่โดดเด่นแทบจะทุกด้าน สิ่งที่ผมคิดว่ายอดเยี่ยมที่สุดในเกมเกมนี้ก็คือระบบการเซ็ตสกิลได้อย่างอิสระ ซึ่งช่วยเสริมความสนุกของตัวเกมได้เป็นอย่างดี

จุดด้อย : ตอนนี้ตัวเกมยังเป็นภาษาเกาหลีอยู่ ทำให้เราไม่สามารถเสพย์เนื้อเรื่องหรือเข้าใจความสามารถด้านอาวุธได้เลย ถ้าไม่มีความรู้ด้านภาษาเกาหลี

ภาคต่อเกมที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจที่สุด!

Dragon Nest II : Legend ถือเป็นเกมภาคต่อที่ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ มันสนุก และมีระบบที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ที่สำคัญคือทางทีมพัฒนาเขาเข้าใจจุดเด่นของตัวเกมนี้เป็นอย่างดีจึงได้มุ่งเน้นไปในด้านนั้น ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ระบบ Action ที่ถูกออกแบบมาใหม่ให้โดดเด่นและเล่นได้มันส์มากขึ้นยิ่งกว่าเดิมเอามากๆ

รีวิวเกม By GameWorld 

“The game world is our world.”

Tags: , , , , , , , , , , , , , , , , ,

Advertisement




Advertisement




LIKE US