ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นเกมคุณภาพดีๆ มีคุณค่าบนมือถือ ส่วนมากแล้วเราจะเห็นแต่เกมแอ็คชั่น เกมอาร์พีจีที่เน้นความสนุกสนานของเกมเพลย์ และเพราะเหตุนี้ The End of The World เกมอินดี้ผจญภัยจาก Sean Wenham เลยออกมาเป็นงานที่แปลกใหม่ แตกต่างจากเกมอื่นๆ บนสโตร์ (แล้วแอดไปอยู่ไหนมาทำไมถึงเพิ่งมาเล่น ฮา)
The End of The World เป็นเกมเดินสำรวจผจญภัยในรูปแบบ Side Scrolling เนื้อหาตั้งอยู่ในเมือง Newcastle, ประเทศอังกฤษ เล่นเป็นชายผู้โดดเดี่ยวในโลกที่ลมสลายหลังสูญเสียความรักและใช้ชีวิตไปวันต่อวัน ร่วมค้นพบปริศนาในอดีตของเขา ที่จะนำไปสู่จุดจบของโลก ซึ่งเป็นวันที่แฟนเขาเลิกนั่นเอง
The End of The World มีความแตกต่างที่การเล่าเรื่อง ซึ่งเล่าแบบ Metaphor และผู้เล่นจะต้องตีความสิ่งที่เห็นเอาเอง หากเล่นแบบไม่ตีความ The End of The World ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเกมเดินเล่น ภาพการ์ตูนยาว 20 นาทีที่ไม่มีแก่นสารใดๆ
แต่เมื่อตีความแล้ว เราจะได้เห็นมุมมองของชายคนหนึ่ง ที่พยายามใช้ชีวิตเดินหน้าต่อไปหลังจากเหตุการณ์ที่ทำให้เขาหัวใจสลาย เราจะไม่สปอยเนื้อหาใดๆ จากเกมนะ โดยตัวเกมยาวแค่ 20 นาทีเอง อยากให้ไปสัมผัสกันเองมากกว่า แต่ในภาพรวมก็ทำให้เราสนใจว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อทุกความทรงจำที่สวยงามกลายเป็นฝันร้ายบาดแผลลึกสุดเจ็บปวด ทุกครั้งที่หลับตานึกถึงมัน เขาจะอยู่อย่างไร ใช้ชีวิตยังไงต่อไปกันนะ
ตัวเกมเป็นผลงานส่วนตัวของ Sean Wenham ที่ในอดีต เคยเป็นนักออกแบบงานศิลป์ที่ทำงานให้ Ubisoft Reflections ก่อนจะลาออกมาทำงานกับ Heavy Spectrum และก็สมราคาเพราะทุกฉากในเกมนั้นดีไซน์ได้สวยงามมากๆ ทุกภาพเหมือนความรู้สึกที่ถ่ายทอดมาผ่านภาพวาด เหมือนเวลาที่ศิลปินใช้ภาพเพื่อบอกความรู้สึกอะไรแบบนั้นกันเลย
เกมเพลย์ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ด้วยความที่เป็นเกมขายการสำรวจ เกมเพลย์เลยมีแค่เดินไปมา ทำตามที่เกมสั่งไปเรื่อยๆ เท่านั้น แต่ระหว่างเกมก็พอมีระบบน่าสนใจให้พูดถึงบ้าง อย่างระบบนาฬิกา ระหว่างการเดินสำรวจ ผู้เล่นจะสามารถกดไอคอนรูปนาฬิกาเพื่อดูภาพในอดีตที่เขาและแฟนสาวของเขาเคยมีความสุขด้วยกันได้ ผู้เล่นก็ต้องลองตีความโมเมนต์เอาว่าแต่ละความทรงจำนั้นหมายถึงอะไรเพื่อปะติดปะต่อไปยังวันโลกแตกตามลำดับ
สรุป
นี่ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นข้อความที่ยาวกว่า 20 นาที ที่ Sean Wenham อยากส่งถึงผู้สูญเสียความรักทุกคน ให้ผ่านพ้นจากวันที่ทำให้โลกของคุณล่มสลาย ตัวเกมไม่มีคุณค่าการเล่นซ้ำ และไม่ใช่เกมสำหรับทุกคน แต่ The End of The World คือหนึ่งในชิ้นงานศิลปะที่ควรจะได้ลองสัมผัสกันสักครั้งครับผม