by GM News
ทุกๆ วัน วาน่า สปริงเกอร์ และ อดัม สตีเวน จะใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันนั่งเล่นเกม Stardew Valley ไปด้วยกัน ทั้งคู่ใช้เวลาเล่นไปแล้วมากกว่าร้อยชั่วโมง หว่านโรยเมล็ดพืชพันธุ์ไปทั่วดินทองคำของ Stardew Valley พวกเขารดน้ำ หลอมแร่ เลี้ยงสัตว์ปลูกผักอยู่เคียงข้างกันมาตลอด และวันหนึ่ง อดัม เขารู้ว่า วาน่า จะต้องไม่เชื่อเขาแน่นอนเมื่อเขาบอกกับเธอว่าเขาได้ค้นพบความลับใหม่ของเกมซ่อนอยู่ใต้ทุ่งหญ้า เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะเธอรู้ทุกซอกทุกมุม ทุกความลับของเมือง Pelican มาตลอดน่ะสิ ตั้งแต่การขยายช่องเก็บของจากการซื้อของใน Jojomart ยันความลับที่รอคอยเธออยู่ใต้เหมืองลึก
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้นั้น คือก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน อดัมได้หยิบจอบขุดและหว่านเมล็ดดอกทิวลิปไปทั่วจนได้เป็นศัพท์คำว่า ‘MARRY ME?’ ที่แปลว่าแต่งงานกับผมไหม มันฟังดูตลก แต่ด้วยแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องเข้ามาในเกม ไม่มีเวลาไหนที่จะสมบูรณ์แบบไปกว่านี้แล้ว
“ทันทีที่เธอเดินเข้ามายังประตูห้อง ผมบอกให้เธอลองเดินไปเช็คที่มุมท้ายสุดของแผนที่ เธอเดินตามที่ผมบอกไป แล้วเห็นตัวอักษร A,R และ Y เธอเริ่มสงสัย แล้วถามผมว่านี่มันอะไรกัน ตอนนั้นผมนั่งอยู่กับเธอบนโซฟาแล้วหัวเราะ จากนั้นผมก็ลุกขึ้นแล้วคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ เธอถามผมว่า “เกิดอะไรขึ้น นี่มันอะไรกัน” ตอนนั้นเองที่ผมถามเธอว่า “คุณจะแต่งงานกับผมไหม?”
อดัม ยอมรับว่าเขารีบมาก ดอกทิวลิปในเกมที่เขาหว่านเมล็ดเอาไว้ก็ยังไม่ทันโตผุดขึ้นมาจากกองดินเลย แต่ก่อนหน้านี้เขาได้ลองทำและวางแผนมาสี่ห้าครั้งแล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าแผนขอแต่งงานของเขาจะออกมาอย่างไร้ที่ติที่สุด ทุกอย่างที่เขาทำถูกบันทึกไว้บนไอแพด และมันจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเขาตลอดกาล
วาน่า บอกว่าเรื่องราวการแต่งงานของเธอไม่ค่อยได้รับเสียงตอบรับที่ดีต่อครอบครัวและเพื่อนของเธอนัก ในขณะที่พ่อของเธอชื่นชอบและมองว่าไม่มีอะไรที่ทรงคุณค่าและแสดงถึงความสัมพันธ์ของกันและกันไปมากกว่านี้ พี่เขยของเธอกลับถากถางว่า “ต่อไปไม่ไปแต่งงานกันในร้านอาหารเด็กกันเลยล่ะ?” และวาน่าทำได้แต่เพียงยิ้มขมขื่นเท่านั้น
เธอมองว่ามันเป็นเสียงตอบรับที่คาดหวังได้สำหรับผู้คนที่ไม่เข้าใจพลังของความสัมพันธ์ที่พวกเขามีต่อ Stardew Valley ความเงียบสงบในทุ่งนาเล็กๆ แสงสาดส่องอาจจะฟังดูน่าเบื่อหรือเป็นพลังความรู้สึกที่มิอาจอธิบายได้เลยขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน และมันคงจะยิ่งยากขึ้นไปอีกในการพยายามอธิบายว่าทำไมกะอีแค่ทุ่งนาดิจิตอลจากวิดีโอเกมนี้ถึงได้ลึกซึ้งในมุมมองของพวกเขานัก
ถ้าจะให้พยายามอธิบายคงเป็นเพราะ Stardew Valley คือสิ่งเดียวที่ใกล้เคียงกับความเป็นเกมจำลองโลกยูโทเปียมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา มันคือโลกที่เปี่ยมไปด้วยความฝันของการลาจากโลกที่วุ่นวาย สู่ดินแดนว่างเปล่าเงียบสงบ และเป้าหมายเดียวที่เกมแบบนี้มีคือใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะมีที่ไหนที่เป็นแบบนี้ได้อีกเล่า จะมีที่ไหนที่ให้สองคนนี้ตกหลุมรักกันและกันได้อีก ไม่มีอีกแล้วนอกจากโลกแห่งความสุขของ Stardew Valley
“เราเคยพยายามเล่น Rocket League ด้วยกัน หรือแม้แต่ Pokemon ที่เราตั้งใจเล่นจนถึงขั้นระดับแข่งขันกันจริงจังกับมันมาก แต่กับ Stardew Valley ทุกอย่างช่างสงบสุข ทั้งการทำงานของเวลาในเกม มันเหมือนเกมที่เราสามารถเล่นเคียงข้างไปด้วยกัน และค้นพบอะไรใหม่ๆ ไปด้วยกันได้” วาน่ากล่าว
“ไอเดียของการมองดูฟาร์มของกันและกัน แล้วได้ความคิดใหม่ๆ ไปพัฒนาฟาร์มของตัวเอง นั่นแหละ คือการร่วมมือกัน และมันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของเกม” อดัมกล่าว
อดัม และ วาน่า แชร์เรื่องราวนี้บน Subreddit ของ Stardew Valley ที่นั่นเขาได้ลงภาพที่ตัวละครของอดัม ในหมวกฟางและเสื้อสีแดง ยืนบนเครื่องหมายคำถาม และมองมายังหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรา มันเป็นภาพของความหวานแหวว ที่หาได้ยากในโลกของอินเทอร์เน็ตที่เกรี้ยวกราด แม้แต่อีริค ConcernedApe บารอน ผู้พัฒนาเกมยังมิอาจอดกลั้นความสุขนี้ ถึงกับลงมาแสดงความยินดีด้วยตนเอง (และคงจะได้เป็นแขกวีไอพีแน่ถ้าเขาอยากจะไปงานแต่งงานของอดัมและวาน่า)
ในคอมมูนิตี้ของ Stardew Valley ก็มักจะแชร์เรื่องราวน่ารักอะไรแบบนี้อยู่เป็นประจำทุกสัปดาห์ มีทั้งกรณีที่ลูกสาวขอยืมเล่น ‘เกมทำฟาร์ม’ จากคุณพ่อ หรือเรื่องของสามีภรรยาที่เอาส่วนผสมอาหารในเกมมาทำเป็นอาหารจริงๆ หรือแม้แต่คู่รักระหว่าง Ulf Sandberg กับภรรยาเซซิลาที่ตั้งพีซีสองเครื่องเคียงข้างกัน นั่งเล่นไปด้วยกันและเลิกเล่นพร้อมกันทุกวันหยุดสุดสัปดาห์
Ulf จะให้ภรรยาเลือกเครื่องดื่มที่เธออยากทาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม เบียร์ หรือไวน์ แล้วก็นั่งเล่นไปด้วยกัน คอมสองเครื่อง และคู่รักหนึ่งคู่ ที่จะเล่นพร้อมกันและเลิกพร้อมกัน ทั้งคู่ทำแบบนี้มามากกว่า 320 ชั่วโมงแล้ว และมันคือการใช้เวลาร่วมกันยามตกมืดที่ดีเยี่ยมมากๆสำหรับพวกเขา
“มันเป็นเกมที่ผ่อนคลายมากๆ เลยนะ จะคุยกันระหว่างเล่นตลอดเวลาก็ได้ ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์แรงระดับเทพในการเล่น หรือต้องการความไวในการทำอะไรสักอย่าง แถมยังเปิดหลากหลายอย่างให้เราได้ทำกันด้วย จะแต่งฟาร์มตามใจเราด้วยไม้กับก้อนหิน แล้วปล่อยให้เซซิลาลงเหมืองไปขุดแร่ คุณก็ทำได้” เขากล่าว
แซนเบิร์คเผยว่าความทรงจำที่ดีที่สุดของ Stardew เกิดขึ้นเมื่อ เดือน มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมา วัน Midsommar คือหนึ่งในวันที่สำคัญที่สุดของสวีเดน ที่ๆ ประชาชนจะพากันเต้นรำรอบๆ Maypole และทานอาหารเย็นร่วมกันในปาร์ตี้ที่ใหญ่ยักษ์ ทั้ง Ulf และเซซิลารู้เรื่องงานรื่นเริงนี้ แต่ด้วยความเครียด เหนื่อยและไม่อยากจะเจอกับผู้คน พวกเขาตัดสินใจว่า ‘เฮ้ เราโตกันแล้วนี่ เราจะทำอะไรกันก็ได้’ ว่าแล้วก็นั่งเล่น Stardew ด้วยกันแปดชั่วโมงรวดกันไปเลย’
ภายในต้นปีนี้ บาโรน จะปล่อยอัพเดตใหม่โหมดผู้เล่นหลายคนออกมา ให้คอมมูนิตี้ของเกมทั่วโลกได้พบปะและเล่นไปด้วยกัน นี่เป็นข่าวดีสำหรับทุกคน แต่จะเป็นข่าวที่ดียิ่งกว่าสำหรับคู่รักที่ชื่นชอบ Stardew Valley และทั้งอดัมและวาน่าก็เริ่มคุยกันถึงความเป็นไปได้ใหม่นี้แล้ว อีกไม่นานเธอคงจะได้เป็นภรรยาทั้งในโลกความเป็นจริง และไร่ดิจิตอลใน Stardew Valley
Stardew Valley มักจะถูกเรียกว่าเป็นเกมว่าด้วยการหลักหนีจากโลกแห่งความเป็นจริง ถึงกับได้รางวัล “โลกนี้ก็มืดหม่นพอแล้ว เราเดินไปด้วยกันไม่ได้หรือ?” บนสตีม และมันก็ไม่ผิด ความเครียดหลากหลายอย่างในชีวิตประจำวันทั้งด้านสังคมและการเมืองคงไม่น่ากดดันเราเท่ากับตอนที่เรารดน้ำต้นไม้และหว่านเมล็ด แต่จะมองเช่นนั้นอย่างเดียวก็คงจะไม่ถูก มันไม่ใช่เกมที่มอบความเป็นจริงแบบผิดๆ เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเกมที่แสดงถึงความสุขในแง่ดีของมนุษย์ไปด้วย เกมที่สื่อความรู้สึกให้กันและกันแบบใกล้ชิด ที่ๆ สามารถใช้ปลดปล่อยความรู้สึกที่มีต่อกันผ่านทุ่งดอกทิวลิปที่ยังไม่บานสะพรั่ง เกมแบบ Stardew Valley มิใช่แค่เกมที่ให้คุณได้หลบซ่อนจากโลกใบนี้ แต่ยังเป็นเกมที่แสดงให้เห็นว่าอะไรสำคัญต่อชีวิตของเราด้วย
ข้อมูลจาก PCGAMER
