ถึงจะมีดราม่าร้อนแรงมากมายสำหรับ Star Wars Battlefront II แต่ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าเป็นแฟน Star Wars ตัวจริงแล้ว อะไรก็หยุดไม่ได้ แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อมาเล่นดีไหม วันนี้เรารวมทุกข้อมูลของเกมมาฝากกัน เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่มีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
ไม่มีระบบซื้อเงินในเกม ณ เวลานี้, ราคาฮีโร่ลดลง 75%
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีดราม่ามากมายถาโถมเข้าใส่ตัวเกม ไม่ว่าจะเป็นดราม่าเรื่องใช้เวลานานกว่า 40 ชั่วโมงเพื่อปลดล็อคตัวละครตัวหนึ่ง หรือดราม่ากล่องสุ่มที่เป็นประเด็นมายาวนาน และหลังจากที่ทาง EA โดนเกมเมอร์สับ แรงถึงขั้นเริ่มมีทางรัฐบาลบางประเทศมองว่าตัวเกมนั้นขายระบบพนัน ทำให้ EA ตัดสินใจนำระบบซื้อเงินในเกมออกทั้งหมด, ลดราคาฮีโร่ลงสูงกว่า 75%, เตรียมพัฒนาระบบปรับแต่งตัวละครใหม่ยกแผง ทำให้ทุกอย่างในเกมสามารถปลดล็อคด้วยเงินจากในเกมเท่านั้น
กลับสู่กาแล็คซีอันไกลโพ้น
หลีกหนีจากดราม่ายุคปัจจุบันกันบ้าง สู่กาแล็คซิอันไกลโพ้น ที่เต็มไปด้วยสงครามอวกาศ สนุกไปกับโหมดเนื้อเรื่องของเกม ที่ทำมาเพื่อเอาใจแฟนสตาร์วอรส์โดยเฉพาะ รับบทเป็น Iden Versio หัวหน้าสมาชิกกลุ่ม Inferno Squad ของกองทัพอิมพีเรียล สำรวจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังการตายของ Emperor Palpatine ผู้ยิ่งใหญ่ ความขัดแย้ง แนวคิดของฝั่งอิมพีเรียล ที่ๆ ไม่เคยมีหนังเรื่องใดพาเราไปสำรวจมาก่อน ทั้งแคมเปญจะเล่าเรื่องราวระหว่างภาค Return of Jedi และสามสิบปีที่หายไปก่อน The Force Awakens จะบังเกิดขึ้น ระหว่างเกมก็จะมีการแวะให้เราไปเล่นเป็น Luke Skywalker ด้วย
สงครามสามยุค
แต่จุดเด่นที่ทุกคนอยากจะซื้อ Star Wars Battlefront II จริงๆ นั้น คงจะไม่พ้นโหมดผู้เล่นหลายคน หากกลัวว่า Battlefront II จะเหมือนกับภาคแรกที่ไม่ค่อยมีคอนเทนต์อะไรเอาใจแฟนๆ Star Wars มากนักนอกเสียจากว่าจะซื้อ Expansion Pass หายห่วงได้เลย ในภาคนี้ EA และ DICE ให้สัญญาว่าจะมีคอนเทนต์มากขึ้นอย่างแน่นอน จุดสำคัญเลยคือการใช้แผนที่, ตัวละคร และธีมต่างๆ จากทั้งสามยุคของหนังไตรภาคสตาร์วอรส์ จากแผนที่ Theed เมืองหลวงของ Naboo จาก Phantom Menace ถึง Jakku จาก Force Awaken บอกเลยว่าถ้าเป็นแฟนสตาร์วอรส์แล้ว ยังไงก็คุ้ม
คอนเทนต์ใหม่ และคอนเทนต์ที่ใหม่กว่า
ด้วยการขยายในส่วนของคอนเทนต์ที่จะรวมโลกทั้งสามยุคมาไว้ในเกมเดียวกัน ครั้นจะให้มีแต่แผนที่อย่างเดียวก็ใช่เรื่อง นอกจากตัวละครทหารทั่วไปและฮีโร่ของเราจะแตกต่างกันไปตามยุคของแผนที่แล้ว Battlefront 2 ยังมีพาหนะมากมายปรากฏมาให้เราสัมผัสกันจากทั้งสามยุคกันด้วย ไล่ไปตั้งแต่ Y-Wing, V-Wing, N-1 Starfighter, the Vulture Droid, AT-RT และ AAT-1 ที่ยิ่งพิเศษคือ ด้วยนโยบายใหม่ที่ EA พยายามผลักดันมาตลอดนั่นคือทุกอัพเดต DLC นั้นจะต้องฟรี ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า อย่างน้อยจนถึงปลายปี 2018 ทาง EA และ DICE จะต้องเข็นของใหม่ๆ อาทิพาหนะ แผนที่ ตัวละครฮีโร่ และอีกมากมายตามมาอย่างจุใจแน่นอน
คลาสและโหมดที่มากมาย
ในเกมที่มีโหมดผู้เล่นหลายคนทั่วไป จุดหนึ่งที่สำคัญหากอยากจะได้ชัยชนะนั้น นอกจากฝีมือแล้วยังต้องมีความสามัคคีกันด้วย และนั่นคือสิ่งที่ Battlefront II พยายามเล็งเอาไว้อยู่ กับระบบคลาสที่จะกำหนดแนวทางการเล่นของผู้เล่น แต่ละคลาสจะเสมือนตัวเลือกที่ช่วยอุดรูบทบาทของคนในทีม และทำมาเพื่อรองรับทุกรูปแบบการเล่นของผู้เล่น ตั้งแต่ Officer, Heavy, Specialist, Assault ทุกคลาสมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป อาทิ Officer ที่จะคอยสนับสนุนทีม ในขณะที่ Assault ก็ต้องเดินหน้าบุกยิงให้ราบกันไปข้าง หลังจบศึกก็จะได้รับเงินเครดิตปลดล็อคปืนและ Star Cards สำหรับพัฒนาทหารของเรากันด้วย
รองรับ PS4 PRO
มายกระดับกราฟิคให้สวยงามกันไปอีกขั้นสำหรับแฟนๆ สตาร์วอรส์ที่กำลังครอบครอง PS4 PRO ที่จะมีการปรับความละเอียดภาพจาก 1080p แบบคอนโซลธรรมดาทั่วไป ไปยังความชัดที่อยู่ในระดับตั้งแต่ 1296p ยัน 1400p แถมยังปรับปรุงในส่วนของแสงเงาอีกด้วย แต่ถ้าสนใจความลื่นไหลของเกมมากกว่า ก็สามารถเปลี่ยนเป็น 60FPS/1080p ได้เช่นเดียวกัน
อ้อใช่… ลืมพูดถึงโหมดของเกม
จั่วหัวข้อไปว่าคลาสและโหมด แต่ทั้งย่อหน้ามีแต่การพูดถึงคลาสซะงั้น โอเค …โหมดในเกมภาคนี้ มีมากมายไม่แพ้กับภาคแรก นอกจากโหมดเก่าๆ อาทิ Galactic Assault แล้วก็มีโหมดใหม่อย่าง Strike ที่ลดจำนวนผู้เล่นเหลือ 8 ปะทะ 8 ไม่มีฮีโร่หรือพาหนะใดๆ วัดกันที่ฝีมือล้วนๆ ฝั่งหนึ่งต้องบุกชิงของ มีจำนวนการเกิดที่จำกัด ฝั่งป้องกันก็ต้องหยุดฝั่งบุกเอาไว้ให้ได้ ขายความสามัคคีในเกมแบบสุดๆ อีกโหมดก็ไม่พ้น Starfighter Assault นั่งยานยิงกันกลางเวหาอวกาศที่แฟนๆ รอคอย ยิงสู้กับ Intercepter หรือ Bomber ศัตรู แล้วถล่มยานแม่ลงให้ได้ โหมดเกมหลากหลายขนาดนี้รับรองเล่นยังไงก็ไม่เบื่อแน่นอน